ฌอห์ณ น้ำตาแตกขอแฟนสาว เพชร แต่งงาน ฝากไข่ไว้เรียบร้อยเตรียมมีลูก บาลานซ์งานและชีวิตคู่
ใกล้จะเป็นว่าที่เจ้าบ่าว หลังพระเอกหนุ่ม ฌอห์ณ จินดาโชติ ขอแฟนสาว เพชร ภิพัชรา แก้วจินดา ดีไซเนอร์สาวเจ้าของแบรนด์ “PIPAT CHARA” แต่งงานสุดหวาน ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อท้ายปีที่แล้ว เมื่อเจอหนุ่ม ฌอห์ณ ในงานบวงสรวงละคร “พระนคร 2410” เลยอัปเดตความคืบหน้างานแต่งงานว่า
“จริงๆ เหลือแค่ไฟนอลครับผม เราได้ฤกษ์ที่เหมาะสม มาแต่ว่าในที่สุดจะต้องให้ท่านเค้าเป็นคนเลือก เพราะระยะนี้เค้าคิวแน่นทั้งปีเลยครับ ยุ่งกว่าเราอีก ธุรกิจแฟชั่นของเค้าไปได้ดี ช่วงนี้ก็อยู่ประเทศฝรั่งเศส เดี๋ยวกลับมาก็จะไปเปิดที่ญี่ปุ่น เราก็เลยจะต้องดูคิวว่าไหวมั้ย จังหวะพอดี กับเค้าไหม เพราะคิวเรารู้อยู่แล้ว เราแพลนมาพร้อมกับผู้จัดการอยู่แล้ว ว่าเราจะรับละครช่วงไหน ช่วงไหนเราเบรก ตอนไหนเรากลับไปทำงานบริษัท”
ได้ฤกษ์ตอนไหน?
“ต้นปีแรกคงจะไม่ทัน เพราะเหตุว่าเราคุยกันตั้งแต่วันขอว่า ต้นปีหน้าจะไม่ทัน หนึ่งคือผมก็เพิ่งเปิดกล้องอีกเรื่องหนึ่ง แล้วขณะนี้ก็เป็นช่วงโปรโมตละคร ก็จะเป็นช่วง ที่เราจะต้องโฟกัสเรื่องงานของเราก่อน
เวลาเราทำการสู่ขอ มันไม่ใช่แค่หาวันอย่างเดียว มันต้องหาแพลนเนอร์ เราต้องลิสต์รายชื่อแขกเยอะ แล้วเรามีญาติหลายๆ ท่านด้วย ก็น่าจะเป็นช่วงควอเตอร์ที่ 2-3 เป็นต้นไปครับ คงจะตอนกลางๆ ถึงปลายครับ เราจะพยายามออร์กาไนซ์ให้มากที่สุด ด้วยคุณเค้าก็มีความสามารถ สำหรับการจัดอีเวนต์ เวลาเขาจัดแฟชั่นโชว์ เราก็ทำโปรดักชัน เราเลยคอลแลปกันได้ บางทีอาจอยากได้ผู้ช่วย เป็นเรี่ยวเป็นแรงให้เรา”
ตื่นเต้นมากแค่ไหน?
“ตื่นเต้นมาก แต่เป็นความตื่นเต้นที่มีความสุข เป็นตอนเวลาที่ดี คุณเค้าก็มีความสุข เนื่องจากทุกครั้งเวลาเราถ่ายละครเสร็จ เราก็จะนัดกันว่า 4-5 ทุ่มเราจะต้องมานั่งแพลนกัน นั่งดูเรฟเฟอเรนซ์ ดูมู้ดแอนด์โทนภาพ ที่เราจะวาง หรือบรรยากาศที่เราต้องการ แต่ละสัปดาห์เราอัปเดตกันอยู่เป็นประจำ ก็เป็นหนึ่งท็อปปิก ที่เราได้คุยกัน
เพราะว่ามันแค่วันเดียวนะครับ ก็ต้องการที่จะให้ดีที่สุด ซึ่งมันมีทั้งงานหมั้น งานเย็น มีทั้งการพระราชทานน้ำสังข์ มันก็จะมีหลายขั้นตอนครับ ถามว่างานใหญ่มั้ย เรียกว่าญาติคุณเค้าเยอะ ถึงพูดว่าเป็นช่วงที่มีความสุข เป็นช่วงที่เรามีเป้าหมายอย่างชัดเจน เราอยากทำงานเท่าที่ สรรพกำลังเราจะทำได้ เพื่อจะจัดงานให้ได้”
มู้ดแอนด์โทนจะเป็นยังไง?
“คุณเค้ากับผมเทสต์คล้ายๆ กันเรามีคอนเซปต์แล้ว แต่ว่าก็ไม่กล้าบอกเยอะ เดี๋ยวมันเปลี่ยนแล้วจะไม่ตรงปก แต่ผมกล่าวถึงรสนิยมคุณเค้าดีอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ผมมีหน้าที่ แค่ช่วยเกลาหรือตบให้ ซื้อหรือไม่ซื้อเพียงแค่นั้น คือวันที่ขอแต่งงานไป ก็มีเพื่อนๆ พี่ๆ มาให้คำแนะนำเยอะ
ทั้งนิว-ชัยพล พูพาร์ต, โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล,แอริน ยุกตะทัต แล้วขณะนี้เราไปงานแต่งงานทุกสัปดาห์ เราก็เสมือนได้ไปดูงาน สุดท้ายมันก็อยู่ที่เราสองคน คุยกับเค้าชัดเจน วันที่ขอแล้วว่า มันคือวันของเราสองคน ทำในสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด สิ่งแวดล้อมเป็นแค่องค์ประกอบ ในการตัดสินใจ”
ย้อนถามถึงโมเมนต์วัน ฌอห์ณ จินดาโชติ ขอแต่งงาน น้ำตาคลอเลย?
“ผมตื่นเต้นมากๆ มันเป็นขั้นตอน ที่เราแพลนมาอยู่แล้ว แต่หน้างานมันไม่เหมือนกับในละคร ที่เราเคยเล่น บทพูดผมก็ลืมไปหมด เป็นความรู้สึกล้วนๆ แต่สุดท้ายมันก็เป็น สิ่งที่เราภูมิใจมากๆ น้ำพักน้ำแรงเรา การที่เราตั้งใจ ทำอะไรเพื่อคนคนหนึ่ง แล้วมันเป็นความรู้สึกดีๆ นะ”
น้ำตาซึมเลย?
“จริงๆ ผมน้ำตาคลอก่อนเค้าด้วยซ้ำ เนื่องจากรู้สึกว่าแหวนมันมีความหมาย เราค่อยๆ เก็บหอมรอมริบมัน แล้วมันเป็นสถานที่ ที่คุณเค้าเติบโตอีก ปารีสอีก ญาติเค้ามา ญาติเรามา มันเลยมีความหมายมากครับ ทุกๆอย่างที่เราทำในวันนั้น เป้าหมายคือเค้าเป็นหลักแหละ แต่ว่าที่สำคัญ คือมันเป็นสิ่งที่เราต้องอินด้วย อย่างปารีส ซึ่งมันเป็นที่ที่เค้าเรียน แล้วเค้าทำงานที่นั่นมาก่อน มันเป็นที่เดียว
ที่ผมกับเค้ายังไม่เคยไป มันเป็นบ้านยายเค้าที่เค้าเติบโต ผมก็อินกับยายเค้า ทุกๆอย่างมันพอเหมาะพอเจาะ แล้วเค้าก็ยังกล่าวว่าขอบคุณ ที่ขอที่นี่ ในห้องนี้มันดีที่สุด ไปกว่าวันนี้มิได้แล้ว พอเราทั้งสองอิน ผลลัพธ์มันก็ออกมาดีครับ”
แต่งแล้วแพลนมีลูกกันเลย?
“เค้าก็อยากมี เราก็ต้องการมี เหตุผลของการแต่งงาน นอกจากที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเหมาะสม รวมทั้งดูไม่น่าเกลียด นั่นคือการเตรียมมีลูกอย่างถูกต้องครับ แต่ว่าคิดว่าหลังแต่งค่อยว่ากัน ว่าช่วงไหนเหมาะสม จะต้องดูร่างกายเค้าด้วย”
มีการฝากไข่ไว้แล้ว?
“จริงๆ ฝากไข่มาก่อนแล้วครับ เราจัดเตรียมมาก่อนแล้ว ผมว่าด้วยเค้าห่าง กับผมแค่ปีเดียว ตั้งแต่วันแรกที่คบกัน เค้าก็เป็นลูกครึ่งอะ ชัดเจนว่าคบกันหวังไปถึงจุดไหน เพราะยิ่งผู้หญิงอายุมากขึ้น มันยากกับการมีลูกครับ เราก็ต้องคิดเผื่อ แล้วพวกเราก็จริงจัง เราอาจจะเจอกัน ในช่วงโควิด แต่เราก็พยายามอย่างที่สุด คือสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างความชัดเจน ก็เป็นโอกาสที่ดี ที่เราอยู่ร่วมกันเยอะ เราเลยเห็นนิสัยกัน และเลือกที่จะดำเนินชีวิตด้วยกัน”
เรื่องเวลาล่ะ เพชรก็ทำงานเยอะมาก?
“มันไม่ง่ายสำหรับผมแล้ว ผมถ่ายละคร ถ้าเกิดเป็นตัวหลัก เลิก 4 ทุ่ม นัด 7 โมง โทรศัพท์แทบจะไม่ได้จับ อันนั้นก็คือปัญหาหนึ่ง ที่ผมจะต้องปรับตัว คุณเค้าบินทีก็ 10-15 วัน แต่ผมก็จะต้องคุยว่า อันไหนสำคัญผมจะไปช่วย อันไหนที่เค้าต้องการเรา เราเลือกเขามาแล้ว เรื่องเค้าก็สำคัญ แต่ว่าเราจะต้องฉลาด ที่จะบาลานซ์งานกับชีวิตส่วนตัว ถ้าเราเทให้งานหมด ชีวิตส่วนตัวเราแย่ คุณภาพชีวิตเราก็แย่ หรือเราให้ความรัก แต่งานเราไม่รับผิดชอบ เงินก็ไม่มา ผู้ใหญ่ก็ไม่จ้าง ดังนั้นผมไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา แต่ว่ามันเป็นความยาก ที่ทุกคนจะต้องปรับ คุณเค้าก็ต้องปรับไม่ใช่ผมคนเดียว”.