พ่อค้าขายเป็ดย่างร้อง ถูกอดีตเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ บุกใช้ปืนยิงขู่กลางเมือง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 23 เดือนพฤศจิกายน 2565 ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐ ทีวีช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ อดุลย์ วีรวัฒนา ในกรณี อดีตพัศดีเมาชักปืนขู่ พ่อค้า เป็ดย่าง กลางเมืองอุดรฯ

พ่อค้า ถูกอดีต

อดุลย์ วีรวัฒนา พ่อค้า ขายเป็ด ผู้เสียหาย เล่าว่า

วันที่ 16 เดือนพฤศจิกายน 65 รถปิคอัพของตนถูกชนท้าย ขณะจอดซื้อของที่ร้านค้าสะดวกซื้อ ซึ่งรถยนต์ตนมีกล้องรอบคัน และก็ สัญญาณเตือนถูกต้อง

แต่ตอนออกมาที่ถนน ได้ยินเสียงชนก็งงสักระยะ เหตุเพราะว่า ตอนถอยก็มองกล้องแล้ว ไม่มีสัญญาณเตือนอะไร พบว่า ชนกับรถพ่วงข้างขายลูกชิ้นทอด มองเห็นเขาคร่อมรถมอเตอร์ไซค์อยู่ และก็ บอกว่า ไม่ผิด ตนเลยบอกว่า คงจะให้ตำรวจช่วยตัดสิน เหตุเพราะว่า ก็มั่นใจว่า มองสัญญาณเตือนถูกต้อง

ในตอนแรก เขาบอกขอโทษไม่มีเงินจ่าย เป็นเพียงแค่คนขายลูกชิ้น และก็ ทำท่าจะขับรถหนีอย่างเดียว ไม่จ่ายด้วย ตัวเองจึงจับแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ไว้ สุดท้าย เขาจึงยอมไปที่โรงพัก นัดกันพบกันตอน 12.00 น. แต่เขาไม่ยอมมา รอจนถึงบ่าย 3 ร้อยเวรจึงให้ลงบันทึกประจำวันไว้

ต่อมาในวันที่ 20 เดือนพฤศจิกายน 65 ตนมองเห็นคู่กรณีขี่รถยนต์มาจอดไว้ที่โลตัส และก็ เดินผ่านร้านตน จำได้ทันที จึงเข้าไปถาม และก็ บอกให้ไปโรงพักกับตน เพื่อเคลียร์ ตอนแรกเขาไม่ยอม ตนจึงบอกว่า ต้องคุมตัวไป เหตุเพราะว่ามีบันทึกประจำวันไว้แล้ว

เขาจึงไปด้วย เมื่อไปพบกับเจ้าหน้าที่ปรากฏว่า และ ไม่ใช่เจ้าของคดีตน แต่เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ให้เบอร์ติดต่อมา ซึ่งเป็นวันอาทิตย์โทรไปหาร้อยเวรเจ้าของคดีไม่ว่าง บอกให้เคลียร์กันเอง ตนเลยถามคู่กรณีว่า ยอมรับไหมเสียประมาณ 1,1088 ค่าตัวกันชนไม่นับ ให้จ่ายเพียงแค่ 6,000 พอ เหตุเพราะว่า เห็นอกเห็นใจ เป็นคนขายลูกชิ้น มีรายได้น้อย

แต่เขาตอบกลับบอกว่า ไม่มีเงินจ่าย ตนจึงบอกให้ทำสัญญาผ่อนส่งเดือนละ 500 ขอเพียงแค่จ่ายรับผิดชอบบ้าง เขาจึง ยืมโทรศัพท์โทรตามคนหนึ่ง คือ คนภายในคลิปคนก่อเหตุ มารู้คราวหลังเป็นอดีตผู้คุมของเรือนจำ

แล้วอีก 15 นาที อดีตผู้คุมของเรือนจำมาถึงก็เดินมาถามค่าซ่อมแซมรถยนต์ ตนบอกไป 6,000 เขาบอกจะไปซ่อมแซมเอง ใช้อะไหล่เซียงกง น้ำเสียงที่คุยกันเต้มไปด้วยวิวาทะ ต่างคนต่างเสียงดัง ต้นเหตุมาจากตนบอกว่า เป็นรถยนต์ปี 2022 จะต้องซ่อมแซมที่ศูนย์ตามสากล

แต่เขากลับเดินไปบอกเพื่อนว่า “ไม่ต้องจ่ายมันสักบาท ยอมให้ติดคุก” แล้วเดินมาหาผมบอก “มึงอย่ามายุ่ง แล้วมึงจบ ไม่อย่างนั้นกูเอาเรื่องมึงแน่ กูยิงมึงแน่” พอตนได้ยินก็บอกไปว่า คุณเป็นบุคคลที่สามไม่เกี่ยวข้อง มาพูดแบบนี้ได้อย่างไร ตนจึงยกมือถือถ่ายคลิปไว้ แล้วเขาก็เปลี่ยนท่าทางสงบแล้วเดินขึ้นรถไป

พ่อค้า บุกใช้

ต่อมา นายสกาล วีรวัฒนา ลูกชายของ พ่อค้า ขายเป็ดย่าง ผู้เสียหาย เล่าว่า

เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน มีรถปิคอัพสีขาวมาหาที่บ้าน แต่ไม่ลงรถ จอดประมาณ 20 นาที รอบสองก็มาอีก ตนผิดสังเกต จึงโทรถามพ่อว่าได้ถ่ายทะเบียนรถยนต์ของคู่กรณีไว้ไหม พอเช็กทะเบียนว่าปรากฎตรงกัน เมื่อคนภายในรถยนต์มองเห็นตนกำลังยกมือถือมาถ่าย ก็รีบขับหนีออกไป มาอย่างนั้นอยู่ 3 รอบ พ่อจึงตัดสินใจโทรหาเพื่อนของที่ขับรถชน บอกว่า อย่าไปที่บ้าน อย่าไปยุ่งลูกภรรยาตน มีอะไรให้มาหาพ่อที่ขายเป็ดย่างหน้าร้าน

นางทัศนี วีรวัฒนา เมียผู้เสียหาย เล่าต่อในสถานการณ์ในช่วงเวลาที่ อดีตผู้คุมมาหาที่ร้านค้าว่า เขาลงจากรถยนต์มาชักปืน สามีก็วิ่งไปรวบตัว ตนมีความคิดว่า เขาจะเก็บทั้ง 3 คน เหตุเพราะว่า ลงรถมา และก็ ยกปืนสาดเลย ดูท่าทางเมาเหตุเพราะว่าได้กลิ่น ตั้งแต่มาจอดรอบแรก สามีก็ไล่เขากลับ

นายอดุลย์เล่าเสริมว่า ตนบอกกับเขาว่าให้กลับไป ไม่ต้องการที่จะอยากมีเรื่องมีราวกับคนเมา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง น้ำเสียงของตนค่อนข้างจะที่จะเสียงดัง โกรธที่ไประรานลูกตน แต่เขาบอกไม่จบ แม้ไม่ใช่คู่กรณี ก่อนที่จะเข้ามาถึงตัวระยะห่างเมตรกว่าๆ ตนรีบพุ่งเข้าใส่ไว้ก่อน เหตุเพราะว่ามีปืน จนถึงเกิดเหตุชลมุน

ตอนนี้นั้นกลัว แต่สามีบอกเจ็บกับตายมีอยู่ 2 อย่าง จึงให้ลูกกับภรรยาให้หนี หรือหาที่หลบ อย่างมากไม่เจ็บก็ตาย เหตุเพราะว่าระยะแค่นิดเดียวจะต้องพุ่งเลย จังหวะพุ่งเข้าไป คือ ทำให้เสียหลักทั้ง 2 คน ตั้งใจจะรวบไว้ เหวี่ยงเขาลง หน้าเขาเลยไถลกับพื้น ไม่มีการต่อยเขาแต่อย่างใด

กดลงอย่างเดียว แล้วตะโกนบอกให้ลูกชายวิ่งเอาปืนออกมาจากมือ ตอนนั้นมีลูกกระสุนใส่แม็กกาซีนเต็มแม็ก คิดว่าน่าจะเก็บทั้งสาม เหตุเพราะว่ายืนเรียงกัน

พ่อค้า กลางเมือง

นายเอกภพ เหลืองประเสรฺิฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผย

ถ้าเกิดตำรวจสอบปากคำจากที่ให้การ แจ้งคดีจะพยายามฆ่าได้เลย เหตุเพราะว่า 1 ลูกกระสุน อยู่ในรังเพลิงมาแล้ว แล้วจะต้องพิสูจน์ว่า มีการสไลด์มาก่อนหรือเปล่า ประกอบกับมีอาการเมา จะรอให้เขายิงไม่ได้

การเข้าชาร์จเสี่ยงมาก ประเด็นนี้ จะมองว่า ไม่มีการยิงแจ้งพยายามฆ่าไม่ได้นะ ถ้าเกิดสอบปากคำพฤติการณ์แล้ว บางครั้งอาจจะแจ้งพยายามฆ่าได้เลย คนก่อเหตุเท่าที่รู้ ปัจจุบันยังรับราชการอยู่เลย เพียงแต่มีการโยกย้ายจากกรมราชทัณฑ์

ด้าน พ.ต.อ.จามร อันดี ผู้กำกับ สภ.เมืองอุดรธานี เผยว่า การแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกรณีดังที่กล่าวถึงมาแล้วนั้น ความผิดแบ่ง 2 ส่วน เป็นอาญาแผ่นดิน คือ ตำรวจเป็นผู้กล่าวหา และก็ ทางฝั่งผู้เสียหายกล่าวหา

ในส่วนของอาญาแผ่นดิน 3 ข้อกล่าวหาหลัก 1.พาอาวุธปืนไปที่หมู่บ้าน 2.พาอาวุธไปหมู่บ้านทางสาธารณะ 3. ตรวจวัดแอลกอฮอล์ สำหรับเรื่องการคุมตัว เบื้องต้นมีการสอบปากคำปากคำ แจ้งกล่าวหาตามความผิดที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีการควบคุมไว้รัฐธรรมนูญ จะต้องคุมตัว 48 ชั่วโมง

แต่ต่อมา ประมาณ 1 วัน ผู้ต้องหาใช้หลักทรัพย์เป็นตำแหน่งค้ำประกัน จึงปล่อยให้ประกันตัวได้ ในระหว่างนี้ ถ้าเกิดผู้เสียหายแจ้งข้อกล่าวหา ก็ต้องมองตามการกระทำว่า มีความผิดฐานได้บ้าง การถึงขนาดพยายามฆ่าไหม ทั้งนี้ อยู่ในระหว่างสอบปากคำรวบรวมหลักฐาน เพื่อรอคอยแจ้ง

ส่วนกรณีที่กล่าวว่า อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการช่วยเหลือ เหตุเพราะว่า เป็นอดีตพนักงานอัยการ ย้ำว่า ไม่ได้ช่วยเหลือกัน น่าจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด และก็ ในการประกันตัว

เราได้ไต่ถามการกระทำแล้ว ถ้าเกิดผู้ต้องหามายุ่งเกี่ยวกับหลักฐาน หรือคดีแล้ว จะถอนประกันทันที ซึ่งประเด็นนี้ตัวเองได้ไปคุยกับผู้เสียหาย และก็ อธิบายหลักการทำงานของตำรวจ ยืนยันชัดเจนกับผู้เสียหายแน่ชัดแล้ว เมื่อวานนี้