Prod. by NINO เส้นทางชีวิตจากก้นเหวสู่ โปรดิวเซอร์พันล้านวิว

Highlight NINO

คือโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเพลงดังมากมาย ทั้งเพลง “ทน” ที่ดังไกลถึงชาร์ตบิลบอร์ต และ เพลง “พักก่อน” ของแร็ปเปอร์สาว MILLI
แม้จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในฐานะโปรดิวเซอร์ แต่ว่าก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เหมือนทางตันของชีวิต และ ในวันที่ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือ ทางเดียวที่จะไปต่อได้ คือ การยืนหยัดด้วยตัวเอง
สิ่งสำคัญสำหรับเพื่อการทำเพลงให้ประสบความสำเร็จเป็นเนื้อหาที่จะเสนอ ที่จะส่งออกไปให้คนเข้าใจ รวมทั้ง ฟังแล้วติดหู
ทุกความสำเร็จที่ได้รับ ไม่เคยมีความรู้สึกว่า ตนเองมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพเลย เขา คิดเพียงแค่ว่า วันนี้ สามารถช่วยเหลือครอบครัวได้แล้วเท่านั้น

ถ้าถามว่า รู้จัก “NINO – เกริก ชาญกว้าง” ไหม หลายๆคน อาจขมวดคิ้ว ครุ่นคิดหนักว่า ผู้ชายคนนี้ เป็นใคร แล้วจะไปรู้จักเขาได้ยังไง

แต่ถ้าถามว่า รู้จักเพลง “ทน” เพลงไทยที่ดังไกลถึงชาร์ตบิลบอร์ด รวมทั้ง เพลง “พักก่อน” เพลงแร็ปสุดเฟี้ยวของแร็ปเปอร์สาว MILLI บ้างหรือไม่ เชื่อว่า ทุกคน อาจจะพยักหน้า รวมทั้ง คงจะเคยได้ฟังเพลงเหล่านี้ผ่านหูมาบ้าง เพลงดังเหล่านี้ ถูกสร้างสรรค์โดยในฐานะโปรดิวเซอร์

และอีกหลายร้อยเพลง และ ส่วนหนึ่งของผลงานมากมายของเขา ยังกลายเป็นเพลงไวรัลในโลกออนไลน์ จนกระทั่งทำให้ได้รับฉายาว่า “โปรดิวเซอร์พันล้านวิว” แต่ว่าบนเส้นทางสู่ความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่ว่าขณะที่แสนท้าทาย และ ไม่มีคนไหนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แนวทางเดียวที่จะผ่านมันไปได้ คือ “ลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเอง”

NINO เส้นทาง

สู้โชคชะตาด้วยสองมือของตนเอง

“ครอบครัวผม ก็มีฐานะปานกลาง พอมีพอกิน แล้วภายหลังได้ไปเรียนที่แคนาดา ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน จนกระทั่งขั้นที่ครอบครัว 4 คน จำเป็นต้องอยู่ในรถคันเดียว รถยนต์ที่อยู่ก็ไม่ใช่รถยนต์ของตัวเอง แต่ว่าเป็นรถของตาที่พวกเรายืมมา และจากนั้นก็มาอยู่ด้านในห้องเล็กๆ มีห้องน้ำห้องเดียว” โปรดิวเซอร์ เล่าย้อนไป

จากเด็กหนุ่มผู้ได้ทุนไปเรียนสาขาภาพยนตร์ ไกลถึงประเทศแคนาดา แต่ว่าโชคชะตาก็ทำให้จะต้องเผชิญหน้ากับ “ปัญหา” ที่ใหญ่กว่าตนเองจะปรับปรุงได้ เขา เล่าว่า เหมือนอนาคตที่เคยฝันไว้พังทลายลงมา แล้วก็ เขาเองก็คิดไม่ออกว่า ต้องเดินไปทางไหน คล้ายกับว่า ทุกๆอย่างเป็นทางตัน

และไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย แต่ว่า “ในวันที่พวกเราอยู่ก้นเหว พวกเรา มีทางเดียวที่จะไปต่อได้ คือ พวกเรา จะต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง”

“ผมเป็นนักสู้ ผมก็ต้องหาทางที่จะเอาชีวิตรอด แรงบันดาลใจหลักๆเลยก็เป็นครอบครัว คนที่อยู่ในครอบครัวพวกเรานี่แหละ ที่เป็นแรงผลักดันให้เรามีกำลังใจสำหรับเพื่อการใช้ชีวิตต่อไป คือผมเป็นคนใฝ่ฝันสูง อยากมีอะไรเป็นของตัวเอง แล้วถ้าหากพวกเราไม่ทำ มันก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แต่ถ้าเราจะไปถึงตรงนั้น เรา ควรจะมีทีมเวิร์กที่ดี หากไม่มีทีมเวิร์กที่ดี กำลังใจก็ไม่มี มันก็บางทีก็อาจจะโดดเดี่ยว” โปรดิวเซอร์ กล่าว

จุดเริ่มต้นอาชีพ “โปรดิวเซอร์” ของ NINO

“พอเราพบทางตัน พวกเรา ก็พยายามจะหาทางออกว่า สิ่งที่พวกเราทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นคืออะไร ในตอนนั้น มันก็มีนักบอล นักมวย เกมเมอร์ รวมทั้งดนตรี ซึ่งผมว่า ผมเก่งดนตรีมากที่สุด” โปรดิวเซอร์ บอก

เมื่อค้นพบว่า ดนตรี เป็นสิ่งที่ตนเองทำได้ดีที่สุด บวกกับเสียงชื่นชมจากคนรอบข้าง ที่คอยส่งเสริม และให้กำลังใจ

ก็เลยทำให้เริ่มสนใจอาชีพ “โปรดิวเซอร์” ซึ่งเป็นอาชีพที่ยังไม่ค่อยมีคนทำมากเท่าไรนัก ในขณะนั้น รวมทั้ง ศึกษาการกดบีทจาก YouTube

“โปรดิวเซอร์ ก็คือ คนที่ดูภาพรวมของเพลง คล้ายๆกับผู้กำกับ เป็นคนที่มองตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเพลง เป็นคนควบคุมโปรเจ็กต์ และก็ช่วยทำให้ศิลปินตัดสินใจได้ดีขึ้น คือเป็นเหมือนผู้ช่วยศิลปินอีกที” โปรดิวเซอร์ ชี้แจง

NINO ชีวิต

ความสำเร็จของโปรดิวเซอร์ NINO

ภายหลังหันมาเอาดีทางด้านดนตรี ชื่อของ NINO ก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับฉายา “โปรดิวเซอร์พันล้านวิว” จากผลงานเพลงที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นร่วมกับศิลปินหลากหลาย ทั้งเพลง “พักก่อน” ของ MILLI, เพลง “เป็นไรไหม” ของ LAZYLOXY x OG-ANIC, เพลง “Mirror Mirror” ของ F.HERO MILLI

และก็ ชางมิน จากวง Stray Kids วงไอดอลมีชื่อเสียงจากประเทศเกาหลีใต้ หรือ เพลง “4EVER” จาก 4EVE เกิร์ลกรุ๊ปของไทย ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีเพลงอื่นๆ อีกมากมาย ที่เป็นผลงานของ NINO มองได้จากคำว่า “Prod. by NINO” ที่กลายเป็นคำการันตีประสิทธิภาพของงานเพลง

“แรกๆที่เริ่มมีคนรู้จักผมเยอะขึ้นเรื่อยๆ บน BTS หรือ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ แล้วก็มีพี่วินอีกคน หรือ แกร็บ กล่าวว่า “นี่ NINO หรือเปล่า” กลางสี่แยกเลย ก็ตลกดี พี่รู้จักผมด้วยหรอ ก็เริ่มมีคนมาขอถ่ายรูป

และจากนั้นก็ดีใจที่มีคนรู้จักอาชีพโปรดิวเซอร์ของพวกเราด้วย เนื่องจาก น้อยคนที่จะทำอาชีพนี้ แล้วส่วนมากก็จะรู้จักแต่เบื้องหน้า” โปรดิวเซอร์ กล่าว

เมื่อถามถึงเคล็ดลับการทำเพลงให้ประสบความสำเร็จ เขา พูดว่า ไม่มีเทคนิค แต่ว่าสิ่งสำคัญเป็นเนื้อหาที่จะนำเสนอ ที่จะส่งออกไปให้คนเข้าใจ รวมทั้ง ฟังแล้วติดหู

“เราจริงใจกับสิ่งที่เราจะเสนอออกไปมากน้อยแค่ไหน ที่เหลือก็เป็นคาแรกเตอร์ ผมว่า ความเป็นธรรมชาติ คือ คนเรามีเซ้นส์ที่จะเดาออกได้ว่า นี่ไม่ธรรมชาติ แต่อันนี้รู้สึกธรรมชาติว่ะ บางคน มีความคิดว่า พวกผมทำเพลงทน มานั่งแกะนั่งหั่นเพลงทนว่า ทำยังไงถึงจะได้รับความนิยม

แต่ความเป็นจริง คือ ทำไม่ถึงชั่วโมง พวกเรา ยังไม่รู้เลยว่า มันดังได้ยังไง ผมว่า อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ คือ พวกเรา สื่อสารยังไง แล้วคนฟังเขาเข้าใจกับพวกเรามากน้อยแค่ไหน” โปรดิวเซอร์ ชี้

ก้าวสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากยิ่งกว่าเดิม

แม้ว่าจะประสบผลสำเร็จ ในฐานะโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงดังหลายร้อยเพลง แต่ว่าก็ไม่เคยคิดว่า ตนเองมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพเลย เขา คิดเพียงแค่ว่า วันนี้เขาสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้แล้วเท่านั้น และ ตั้งใจที่จะมอบโอกาสกับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเข้ามาโลดแล่นในแวดวงเพลง

นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ NINO ในฐานะเจ้าของค่ายเพลง HYPE TRAIN GROUP ตัดสินใจร่วมมือกับ Universal Music Thailand โดยมีเป้าหมายที่จะปั้นศิลปิน แล้วก็ คนเบื้องหลัง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่มีคุณภาพ ออกสู่ผู้ฟังเพลงทั่วทั้งโลก

“เปรียบเทียบพวกเราเป็นเหมือนทีมฟุตบอลเล็กๆ ในวันหนึ่ง เรา อยากจะมีคนมาสนับสนุนให้เราได้เดินทางออกไปสู่โลกกว้างได้มากขึ้น อย่างยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีอะไรมากั้น ไม่มีกำแพงแล้ว เรา ได้เห็นแฟนคลับ ได้เห็นหลายวงไปเล่นต่างประเทศ

พวกเรา ได้เห็นฐานแฟนจากต่างประเทศที่ฟังเพลงของเรา ผมว่า อีกไม่นาน พวกเรา จะมีแฟนเพลงใหม่ๆมากเพิ่มขึ้น มีคอมมูนิตี้ใหม่มากมาย เพื่อมาสนับสนุนศิลปินของพวกเรา การร่วมมือกันในครั้งก็เลยทำให้ผมดีใจมาก” โปรดิวเซอร์ เล่า

“ผมอยากทดลองอะไรไปเรื่อยๆ เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ผมเปิดค่ายเพลงเพิ่ม แล้วในอนาคต ก็อาจจะเปิดค่ายเพิ่มเติม เพื่อทดลองอะไรใหม่ๆ ทดลองหลายๆแนว หาศิลปินแนวใหม่ ให้คนไทยได้ฟัง ผมว่า อันนี้ก็เป็นพื้นที่ของผมอยู่แล้ว” โปรดิวเซอร์ กล่าวปิดท้าย

2 ปี รัฐประหารพม่า อำนาจในเงื้อมมือทหาร คำมั่นจัดเลือกตั้ง แค่เรื่องจอมปลอม

ผ่านไป 2 ปี รัฐประหารใน พม่า จากมือพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย คนออกคำสั่งการทหารสูงสุดเมียนมา นำกำลังทหารเข้ายึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของออง ซาน ซูจี ภายหลังพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563 อย่างถล่มทลายจนกระทั่งครองเสียงข้างมาก จัดเตรียมจะเปิดประชุมสภาครั้งแรกภายใน 90 วัน

ท่ามกลางกลิ่นรัฐประหารโชยมา และและจากนั้นก็เป็นจริง เมื่อกองทัพอ้างความยุติธรรมในการก่อรัฐประหารเมื่อเช้าตรู่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 กล่าวว่า มีการโกงลงคะแนนเสียง และเข้าจับกุมตัวออง ซาน ซูจี รวมทั้งนักการเมืองที่เกี่ยว ส่วนอีกหลาย ๆ คนสามารถแอบหนีไปได้ และภายหลังได้ตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ มาจากหลากหลายชาติพันธุ์ เพื่อคานอำนาจกองทัพเมียนมา

พม่า อำนาจ
การก่อรัฐประหาร พม่า ก่อให้เกิดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 ปี

แต่งตั้งพลเอกมินต์ ส่วย รองประธานาธิบดี ทำหน้าที่ประธานาธิบดีรักษาการ ต่อมามีการขยายสถานการณ์ฉุกเฉินเป็น 2 ปี 6 เดือน รวมทั้งยังมีผลให้เมียนมาเกิดการนองเลือดทั่วแผ่นดิน ผู้เห็นต่างถูกจับกุม สูญเสียชีวิต หายสาบสูญ และพลัดถิ่นอาศัย ซึ่งข้อมูลของ ACLED มีการเฝ้าดูความรุนแรงในหลายประเทศ กำหนดมีผู้เสียชีวิตในเมียนมาราว 1.9 หมื่นคน

พม่า เงื้อมมือทหาร

2 ปีผ่านไป กับเสียงปืนเสียงระเบิดที่ พม่า

การสู้รบเพื่อปราบปรามผู้เห็นต่าง บริเวณแนวชายแดนติดกับไทย มีเป็นช่วง ๆ สร้างความหวาดสะดุ้งให้กับชาวไทยที่อาศัยในพื้นที่ ยังไม่รวมเหตุการณ์ความร้ายแรงที่บางทีอาจถูกปกปิดไม่ออกมาสู่โลกภายนอก และต้องจับตาดูท่าทีกองทัพเมียนมา จะจัดการเลือกตั้งไม่เกินเดือน สิงหาคม 2566 นี้ ตามที่ให้คำมั่นไหม หลังออกกฎที่ต้องปฏิบัติตามใหม่ให้เอื้อต่อพรรคสหภาพสามัคคีและก็การพัฒนา ซึ่งเป็นผู้แทนทหาร

แต่อาจไม่ง่าย เพราะเหตุว่าสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่าเป็นเรื่องจอมปลอม
แล้วก็ถ้ามีลงคะแนนเสียงจริง ก็จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งสอดคล้องกับความคิดเห็นของ

คำมั่น

“ศ.กิตติคุณ ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู” นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เพราะเรื่องการจัดการเลือกตั้งของกองทัพเมียนมา ตามข้อสมมติฐานต่างเชื่อกันว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับทหารเมียนมา จะต้องทำตามรัฐธรรมนูญกำหนด หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสิ้นสุดไปเมื่อสิ้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการจัดเลือกตั้งใหม่ ได้วางเงื่อนไขให้ลงทะเบียนพรรคใหม่ จะต้องมีสมาชิกพรรค 1 แสนคนขึ้นไป และมีสาขาของพรรคจำนวนครึ่งหนึ่งของประเทศ ทำให้พรรคฝ่ายตรงข้ามมีปัญหาเรื่องความพร้อม

“การเลือกตั้งภายใต้รัฐบาลทหาร จะแพ้ไม่ได้ จะต้องมีวิธีการของตัวเอง แต่หากจัดเลือกตั้งไปแล้ว มีความไม่ชอบมาพากล ความชอบธรรมไม่เกิดกับประชาชน ถูกต่อต้านไม่หยุด และไม่ยอมให้ต่างชาติมาสังเกตการเลือกตั้ง เพราะกฎกติกาไม่เป็นธรรมกับคู่แข่ง ก็เป็นไปตามข้อสมมติฐานเชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง และความรุนแรงจะเกิดขึ้นอีก หากไม่แก้ปัญหาอย่างแท้จริง”

ทั้งฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน เพื่อแก้วิกฤติและก็ยุติความรุนแรงในเมียนมา ยังไม่มีการดำเนินการอะไรก็ตามทำให้ไม่มีความน่าไว้ใจ ไม่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แล้วก็คนในประเทศ จนประชาคมโลกไม่ไว้วางใจว่าการลงคะแนนในลักษณะนี้จะจัดการกับปัญหาความไม่ลงรอยกันในเมียนมาได้ และรัฐบาลทหารเมียนมาต้องทำอะไรให้มากกว่านี้ เพื่อผลการออกเสียงมีความยุติธรรม

ระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่กองทัพ พม่า มีการรัฐประหาร ยังคงไม่ได้ รับการยอมรับ จาก นานาชาติ แล้วก็อาเชียน ก็ไม่ยินยอม ให้ผู้แทนเมียนมา เข้าร่วมประชุม เนื่องจากไม่ สามารถทำให้ นานาชาติ ไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้การลงคะแนนเสียง ไม่สนองตอบอย่าง แท้จริง ว่า รัฐบาลทหาร เมียนมา ยึดมั่น ในหลักประชาธิปไตย แล้วก็เมื่ออยู่ในอำนาจ ก็สามารถทำอะไรก็ได้ อย่างที่ผ่านมา ไม่เคยสนใจ นานาชาติ บางครั้งก็อาจจะ ไม่จัดลงคะแนนก็ได้ แล้วก็ขยายสถานการณ์ รีบด่วนออกไปอีก เนื่องจากต้องการยึดอำนาจให้อยู่ในเงื้อมมือทหาร

“คิดว่ากองทัพเมียนมามั่นใจ จะกลับมามีอำนาจได้ จากการ เลือกตั้ง หากหมดอำนาจลง ก็จะเสียประโยชน์หลายๆ อย่าง เป็นเหตุผลไม่ยอมลง จากอำนาจง่ายๆ หากโดน ตรวจสอบภายหลังก็จะเสียผลประโยชน์ และการเลือกตั้งภายใต้รัฐบาลทหารเมียนมาไม่มีหลักประกันใดๆ เลย เพราะพฤติกรรมในอดีตไม่น่าเชื่อถือ ไม่ได้สร้างให้คนเห็นในความบริสุทธิ์ใจ ให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายต่อต้าน และเมื่อคนไม่เชื่อใจ ก็มองเป็นการเลือกตั้งจอมปลอมอยู่แล้ว หากจะให้ยอมรับต้องทำตามกฎหมาย ไม่ควรตุกติก”

เลือกตั้ง

หรือตราบใดที่ผู้ต้องขังทางการเมืองยังถูกจับรวมทั้งถูกจองจำ

จะก่อให้การแข่ง ออกเสียงไม่ยุติธรรม และก็นักการเมืองของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อระบบประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ก็ยากจะแข่งอย่างเท่าเทียมกัน หากจะลงคะแนนควรทำอย่างตรงไปตรงมา ต้องเลิกคุมสื่อ เลิกคุมการเคลื่อนไหวของประชาชน

แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะว่าจะถูกล้มล้างอำนาจโดยประชาชนที่เคยถูกปราบปราม ทำให้การลงจากหลังเสือลำบาก จากการละเมิดสิทธิมนุษยชน จัดการกับฝ่ายตรงข้าม และที่สุดแล้วรัฐบาลทหารพม่าจะอยู่ไปอีกยาว จนถึงประเทศเดินถอยหลัง ทำให้ภูมิภาคของเรามีประเทศถูกตราหน้า กระทบต่อเกียรติศักดิ์ของอาเซียนไม่จบสิ้น

สุดเศร้า "เต้ย MyStyle" เน็ตไอดอลชื่อดัง ป่วยซึมเศร้า จบชีวิตในรถเก๋ง

เต้ย MyStyle” เน็ตไอดอลมีชื่อ ป่วยซึมเศร้า จุดไฟรมควันดับคารถเก๋ง ขณะที่ “แม่” เดินทางมาดูศพก่อนเป็นลมร่ำไห้

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 28 ม.ค. 2566 ร้อยตำรวจโทกาจน์พศุตม์ พรวัฒนศิริกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในรถเก๋งที่จอดอยู่ในซอยศุขประยูร 1 หมู่ 9 ตำบลนาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี ก็เลยรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี แล้วก็กู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ เจอศพ นายวิษณุ ศรีสุวรรณ อายุ 27 ปี หรือ “เต้ย” เน็ตไอดอลชื่อดัง นอนเสียชีวิตบริเวณที่นั่งคนขับภายในรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 3 สีขาว โดยเบาะหลังมีเตาอั้งโล่และก็ถุงใส่เสื้อผ้ากับถุงถ่านวางอยู่ด้วย

เต้ย MyStyle เน็ตไอดอล

ต่อมา นางสาวสกุลรัตน์ จันทร์สมปอง อายุ 48 ปี มารดาคุณเต้ย

ได้เดินทางมาบริเวณจุดเกิดเหตุ พอเห็นศพก็ร่ำไห้แล้วเป็นลมไปทันที ด้านกู้ภัยฯ ได้ปฐมพยาบาลพื้นฐาน แล้วก็เผยว่า ลูกชายเคยบอกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่ทราบไปรักษาโรงพยาบาลไหน ส่วนยาที่กินนั้นก็ไม่เคยเห็น ต้องตรวจสอบในห้องนอนอีกที แต่เขาเคยพูดว่าเป็นหนี้จำนวนมาก ซึ่งก็ไม่เคยทราบว่าเป็นหนี้จากอะไร

จากการถามชาวบ้านที่อยู่ในซอยนั้น เปิดเผยว่า เห็นผู้ตายขับรถมาจอดตั้งแต่ช่วงเช้า รวมทั้งไม่ได้ออกไปไหน แต่ตอน 10 โมง
ยังมีความคิดเห็นว่าเปิดกระจกและนั่งอยู่ในรถติดเครื่องอยู่ ก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะจอดรถไม่ได้กีดขวางทางไปมา รู้อีกทีก็มีความเห็นว่าจอดนานถึงมืดมีความรู้สึกว่าหลับ จึงพากันไปเรียก เขย่ารถแต่ไม่ตื่น ซึ่งเปิดรถออกมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

อย่างไรก็ตาม พื้นฐานตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต และขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดอีกครั้ง แต่ทางมารดาเปิดเผยว่า ไม่ติดใจการเสียชีวิตของลูกชายแต่อย่างใด เชื่อลูกเครียด

เต้ย MyStyle ป่วย
เปิดโพสต์สุดท้าย “เต้ย MyStyle” ก่อนตัดสินใจ จบชีวิตตัวเองในรถ

อาลัย “เต้ย” เน็ตไอดอลมีชื่อเสียงเสียชีวิตแล้ว พร้อมเปิดโพสต์ใจความสุดท้าย ก่อนตัดสินใจจบชีวิตในรถเก๋ง

จากกรณี นายวิษณุ ศรีสุวรรณ หรือ “เต้ย” เน็ตไอดอลมีชื่อเสียง อายุ 27 ปี ป่วยโรคซึมเศร้า จบชีวิตในรถเก๋ง สร้างความตกใจให้กับบรรดาเพื่อน ๆ แล้วก็แฟน ๆ จำนวนมาก

ขณะที่ เฟซบุ๊กของ “เต้ย” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความสุดท้ายไว้เมื่อวันที่ 11 เดือนมกราคม 2566 เป็นภาพขณะนอนป่วยที่โรงพยาบาล พร้อมกล่าวว่า “ไม่ตื่นมาอีกเลยซะยังดีกว่า”

ดังนี้ ได้มีเพื่อน ๆ แล้วก็แฟน ๆ เข้ามาโพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณเต้ยกันจำนวนมาก เป็นต้นว่า RIP หลับให้สบายนะครับ ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี, ขอให้ไปสู่สุคตินะ ตอนนี้เพื่อนๆ มามอบกำลังใจกันเต็มเลย จากนี้ไปขอให้มีความสุข, โชคดี สักวันเราคงได้พบกัน, ขอให้เส้นทางใหม่ที่คุณตัดสินใจเลือกเดิน จงมีแต่ความสุข ความปลอดภัย อย่าได้พบเจอกับความเสียใจ เจ็บปวดอะไรอีกเลยนะ เป็นต้น

เต้ย MyStyle สุดเศร้า

“เต้ย Mystyle” คือใคร? เปิดโพสต์สุดท้ายก่อนถูกเจอเสียชีวิต

ทำความรู้จัก “เต้ย” ดาวทวิตเตอร์ เน็ตไอดอลโด่งดัง เปิดโพสต์สุดท้ายก่อนถูกพบเสียชีวิต

เป็นอีกหนึ่งข่าวที่สร้างความตกใจเป็นอย่างมาก หลังจาก “เต้ย” ถูกพบว่า เสียชีวิตภายในรถเก๋ง โดยมีกล่าวว่า มีผู้พบเห็นรถต้องสงสัยจอดติดเครื่องยนต์
ภายในซอยมนต์ชัยเจริญยนต์ ม. 9 ต.บ้านสวน อ.เมือง จังหวัดชลบุรี เกรงเมื่อพยายามเรียกคนภายในรถก็ไม่มีการสนองตอบ ต่อมากู้ภัยได้ทำการงัดรถเพื่อให้การช่วยเหลือ เมื่อเปิดรถออกมาก็พบว่า มีกลิ่นควันคละคลุ้ง พบเต้ย นอนเสียชีวิตที่เบาะคนขับ

เต้ย Mystyle หรือ นายวิษณุ อายุ 26 ปี เป็น ดาว tikok ดาวทวิตเตอร์ เน็ตไอดอลมีชื่อ
ทำคลิปยูทูป เป็นคนที่สนุกสนาน ทำคอนเทนต์ตลก หน้าตาดี พูดจาดีโดยเป็นผู้มีชื่อเสียงในกลุ่ม LGBTQ+

โพสต์สุดท้ายก่อนเสียชีวิต

เต้ย ได้โพสต์รูปแล้วก็ใจความในเฟซบุ๊ก เป็นภาพนอน โรงพยาบาล มี สายน้ำเกลืออยู่ที่มือ พร้อมข้อความสลดว่า “ไม่ตื่นมาอีกเลยซะยังดีกว่า” ซึ่งหลังจากข่าวการเสียชีวิต ทำให้มีแฟน ๆ แล้วก็ ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปอย่างต่อเนื่อง

จตุพร ย้อนแสบ ทักษิณ ท่านก็หมา ถ้านับบรรดาศักดิ์ของหมู่หมาก็เป็น จ่าฝูง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน รวมทั้งอดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “เชื่อมั่น…ประชาชน” โดยนายจตุพร กล่าวว่า ตนกับ ทักษิณ รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2527 เมื่อครั้งทักษิณ เป็นหัวหน้าพลังธรรมวันแรก จากนั้นร่วมเดินสายการเมืองด้วยกันมา 30 ปี ถ้าเกิดตนคิดเอาแต่ตนเองรวมทั้งเอาประโยชน์ส่วนตน แล้วจะอยู่ร่วมกันไม่ได้เลย แม้ทักษิณบอกสาธารณะ จะให้เป็น รมต. แต่ไม่ได้ ตนก็ยังอยู่และไม่คิดถึงกรณีนี้

เหนืออื่นใดแล้ว การต่อสู้ทางการเมืองที่ผ่านมามีความตายมากมาย ตำแหน่ง รมต. เป็นหัวโขนเล็กมาก เมื่อเทียบกับความตายของประชาชน กระทั่งถึง พรรคเพื่อไทยจะออก พรบ.สุดซอย ตนรับได้ยากมาก เนื่องจากว่าต้องการให้นิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนที่กำลังติดคุก แต่รัฐบาลไม่ยอมออกพระราชกำหนด (พรก.) กลับมาออกเป็น พรบ. แทน แล้วไปแปลงสาร ขยับเพิ่มให้นิรโทษกรรมแกนนำและพ่วงคดีทุจริตเพื่อให้เป็นประโยชน์กับทักษิณได้กลับบ้าน

สิ่งสำคัญ ตนทักทวงว่า หากนิรโทษฯ นอกเหนือประชาชนแล้ว มันจะล้มครืนลง แล้วประชาชนจะติดคุก แล้วก็จะไม่มีโอกาสอีกเลย เขาก็ไม่ฟัง แล้วไปกล่าวที่ประเทศนอร์เวย์ว่า ตนไม่ต้องการให้ทักษิณกลับบ้าน อีกทั้งที่ในวงบอกคุยยุทธศาสตร์ของพรรคมีรองนายกฯ แล้วก็ รมต. และก็ พี่เปียมองเห็นด้วยกับตนว่า อย่าเอาเรื่องคนอื่นนอกเหนือจากประชาชนมา ถ้าหากเอาทักษิณกลับบ้านต้องทำวาระอื่น แต่วาระนี้ต้องตอบแทน ประชาชน ส่วนที่ตายและก็บาดเจ็บเอาชีวิตรวมทั้งร่างกายกลับคืนมาไม่ได้ แต่คนกำลังสูญเสียอิสรภาพ นี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้น แล้วท่านก็โกรธ

“ผมอยากถามทักษิณว่า ตอนทำเรื่องนิรโทษฯ สุดซอย มีใครไปพบท่านแล้วอยู่กับท่าน ในแวดวงเขานินทากัน มีเครื่องบินลอยละล่องกันเป็นลำ แต่ทั้งหมดเมื่อไปไม่ได้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาพูดที่หลังว่า เมื่อไปไม่ได้ก็รู้สึกว่าจะกลับมาได้ วันนั้นผมจิตใจสลาย เพราะว่า จะไม่มีเหตุการณ์ชุมชนของประชาชนเต็มถนนหนทางเลยถ้าเกิดเอาเฉพาะประชาชน แต่ไม่เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว”

ทักษิณ จตุพร

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ ทักษิณ พูดว่า ช่วง 16 ปีท่านก็ถูกเห่า

นับตนเป็นตัว และตั้งฉายาให้ ตัวเองว่า ถูกเห่า ท่านกล่าวว่าไม่ต้องมาฟังตน ให้ใช้น้ำยาล้างหูไป ก็พยายามเลี่ยง แล้วใช้ถ้อยคำว่า ถูกเห่ามา 16 ปี 2-3 ตัวแล้วก็ บางตอนก็ 4-5 ตัว มีการนับเป็นตัว เขาบอกภาษาไทย ไม่แข็งแรง แล้วหัวเราะกันสนุกสนาน

“ผมกับนายกฯทักษิณ ปราศรัยเวทีเดียวกัน มาในช่วงอยู่ประเทศไทย รวมทั้งผ่านวีดีโอลิงค์ ต่างกรรมต่างวาระกัน มายาวนานที่สุด ถ้าหากการพูดของผมเป็นการเห่า บนเวทีนี้ท่านก็ร่วมเห่ากับผมด้วย ถ้าผมหมา ท่านก็หมา ท่านอาจเป็น จ่าฝูง ถ้านับบรรดาศักดิ์ของหมู่หมาด้วยกัน”

นายจตุพร ย้ำว่า ถ้าหากหลักคิด ของทักษิณมองดูผู้ร่วมต่อสู้ด้วยกันเป็นหมา เป็นตัว แล้วหลีกเลี่ยง การตอบความจริง โดยเหตุนั้นท่านต้องนึกช้า ๆ ว่า สิ่งที่ท่านดำเนินการทั้งหมดไปนั้น ถ้าหากตรงไปตรงมา กับประชาชน รวมทั้งไม่พูดถึงตนในทางเป็นเท็จรวมทั้งเกิดความเสียหายในช่วงนี้ แล้วตนจะมาพูดเรื่องนี้ในช่วงนี้ทำไม

นอกเหนือจากนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถ้าเกิดตนคิดถึงผลประโยชน์แล้วจะอยู่กับท่านได้อย่างไร เพราะเหตุว่า ท่านทรยศตนตลอดเวลา พูดปดจำเจ โป้ปดมดเท็จแล้วพูดเท็จใหม่ซ้ำกันไปซ้ำกัน อย่างไรก็ตาม ตนต้องไปก่อนการยึดอำนาจ เพราะหักกันเรื่องนิรโทษฯ สุดซอย อีกทั้งเรื่องส่วนตัวก็พูดปด และทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลง ไม่ว่าเรื่องลงนามรับรองศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และก็เรื่องแก้ รัฐธรรมนูญ และการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง

รวมทั้งย้ำว่า ตนกล้ำกลืน ต้องการรักษาความรู้สึกของพี่น้องเสื้อแดง เนื่องจากว่าเขาตาย เขาเจ็บ หลังการสลายชุมนุม (ปี 2553) ตนตระเวณทุกพื้นที่ท่ามกลางความตาย แต่ทักษิณเสนอให้หนี แต่ตนไม่หนี ซึ่งขณะนั้นเสื้อแดงรวมทั้ง พรรคเพื่อไทยตกต่ำที่สุด เราก็พากันพลิกฟื้น รวมทั้งชีวิตตลอดเส้นทางนั้น ถ้าเกิดตนจะเอาตัวรอด ก็ต้องเอาตัวรอดแล้ว แต่เพราะเหตุใดตนก็เลยยืนขึ้นสู้ต่อ

“ตลอดเวลาที่ท่านหักหลังผมนั้น หากผมคิดเรื่องส่วนตัว ผมจะมาสู้ที่อักษะต่อหรือ? จนกระทั่งกระทั่งมามองเห็นมีการสมคบคิด ในเรื่องการรัฐประหาร ทักษิณไม่ทราบดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 2553 หรือ? และก็ (ยิ่งกว่าสิ่งใด) ชัยชนะที่ประชาชนแลกเปลี่ยนชีวิต ด้วยเลือดเนื้อมาให้นั้น เป็นการแบกความหวังไว้ทั้งสิ้น

นายจตุพร กล่าวว่า ในเรื่อง ICC ก็ไม่กล้ารับ เพราะเหตุว่ากลัว พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดอำนาจ แล้วท้ายที่สุดมา สลายคนเสื้อแดง เพื่อไปพึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ อีกทั้งที่การชุมนุมตกลงแบ่งกันทำงาน เสื้อแดงคุมเวที พรรคเพื่อไทยจัดระดม ประชาชนมาชุมนุม แล้ววันหนึ่งจากคนเป็นหมื่น แล้วมาเหลือหลักร้อยจะให้คิดกันว่าอย่างไร กระทั่งวันที่ 21 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ เรียกพูดจา แล้ว 22 พ.ค. 2557 ก็ยึดอำนาจ

อย่างไรก็ตาม ตนยังบากหน้ากล้ำกลืน เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจ ตนยังวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกนำตัวไปปรับทัศนคตินับไม่ถ้วน และก็เป็นแกนนำคนเดียว ที่ถูกถอนประกัน อยู่ในเรือนจำติดเชื้อในกระแสเลือดเกือบตาย ออกจากคุกจะมีการตัดสิน คดีจำนำข้าว ก็เอาตนเข้าคุกด้วยคำตัดสิน ของศาลฎีกาทั้งที่ศาลชั้นต้นและก็อุทธรณ์ยกฟ้อง เมื่อออกคุกมาก็ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ในนานไทย ไม่ทนก็ถูกขังคุกอีกในคดีเดิมที่ปล่อยตัวมาแล้ว ทั้งยังเดือนหน้า (เดือนกุมภาพันธ์) ตนก็จะถูกคดีฟ้องยึดบ้าน แล้วก็ล่าสุดจะถูกฟ้อง เพิ่มเติมคดีจากเหตุการณ์เมื่อ 14 ปีที่แล้ว

“หาก 8 ปีนี้ ผมเอาเพียงแค่ที่ท่าน (ทักษิณ) หักหลังผม ไปแสวงหาผลประโยชน์ กับรัฐบาล คสช. ผมก็ไม่ต้องติดคุก ผมก็ไม่ต้องลำบาก ผมก็ไม่ต้องมีคดีมากมาย เพราะว่าเรายืนหลักในความถูกต้องตลอดเวลา ทั้งยังฝ่ายเดียวกันไปทำผิดพลาด ผมก็กล้ำกลืน ถ้าหากผมคิดประโยชน์ส่วนตัวแล้ว ผมจะอยู่แบบนี้หรือ?”

อีกอย่าง การต่อสู้ของเราเป็นมาตลอด นั่งจัดรายการต่าง ๆ เพื่อต้องการหยุดอำนาจ 3 ป. ออกไปชุมนุมในนามคณะหลอมรวม ประชาชนก็เพื่อหยุดอำนาจ 3 ป. เพื่อหาทางออกให้ประเทศไทย แล้วมีเรื่องอะไร ไปสกัดแลนด์สไลด์ของทักษิณ

พร้อมกล่าวว่า ท่านทราบหมดว่า ใครคุยอะไรกับใครที่อยู่ประเทศไทย คนไปคุยกับท่านที่เมืองนอก ตนก็รู้หมดเช่นกัน ในเมืองไทยด่าทอกันปางตาย ในช่วงทำศึก อะไรก็ใช้ไม่ได้ ไอ้นี่พวกนี้ ไอ้นั่นพวกนั้น เลือกตั้งเสร็จไอ้พวกนี่และก็คนพวกนั้นไปพบท่าน แวดล้อมไปหมด มันตำตาตนทั้งหมด

“ผมอยากจะบอกนายกฯทักษิณ ที่ท่านบอกถูกเห่า ผมจะบอกท่านว่า หากผมหมา ท่านก็คือหัวหน้าหมา แล้วพวกเรากล่าว ภาษาหมากันมานานแล้ว หมามันมีคุณสมบัติข้อหนึ่ง (นิ้วเคาะโต๊ะเสียงดัง) คือเรื่องความซื่อสัตย์ ท่านยังเป็นหมาไม่ได้เลย หรือเป็นหมาที่ใช้ไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้น คือความซือสัตย์ระหว่างกัน เพราะว่าแลกชีวิตแล้วก็ตายได้ตลอดเวลา ถ้าหากมองเห็นแก่ตัวก็ต้องหนีตามท่านสิ ประเพณีนี้เมื่อหัวหน้าหนีก็จะดี เมื่อผมไม่หนีก็เป็นตัวแปลกอยู่แล้ว”

จตุพร

นายจตุพร กล่าวว่า ที่ไม่หนีเพราะต้องการทวงความยุติธรรม

ให้ประชาชนที่ตาย และก็เดินทางปราศรัยแลกชีวิตมาตลอด แต่หลายคนที่ถูกท่านประณาม ดูถูกดูแคลน ในไทยก็ไปเจอท่านที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้น เหตุที่ไม่ตอบ ทักษิณก็อธิบายได้ อย่าอ้างเรื่องกฎหมายหมิ่นประมาท แต่มีข้อเท็จจริงมันปรากฎด้วยคำกล่าวมาแล้ว ทั้งยังเรื่องเสียงปืนนัดแรกดังจะกลับมา แต่เสียงปืนผ่านไปสองแสนนัด ประชาชนตายเป็นร้อยศพท่านก็ไม่กลับมา

นอกเหนือจากนี้ ทักษิณยังพูดถึงพายเรือไปส่ง เสื้อแดงไม่ต้องตามมา เพราะว่าการพูดเช่นนี้เป็นการแลกเปลี่ยนกับข้อตกลง จะได้กลับบ้าน เพราะเหตุว่าท่านคุยกับตัวเองจำได้หรือไม่ ด้วยเหตุนั้น ทุกอย่างท่านยอมแลกเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และรู้ว่าท่านทำอะไรได้บ้าง อีกอย่างก็ทราบดีว่า ตนไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยดีนักหรอก

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การมาด้อยค่าตน เย้ยดูถูกเป็นคนคิดคดทรยศ หักหลัง อีกทั้งที่ทักษิณเป็นคนหักในการต่อสู้ตลอดเวลา ถึงแม้ท่านรับปาก ประกาศให้ได้ยินกันทั่วๆไป แต่คนที่รักกันอย่างหน้ามืดตามัวก็บอกว่า ทักษิณพูดผิดสักกี่ครั้งก็ได้ ราวกับบอกกลับบ้านปี 2565 ไม่ได้กลับก็บอกเป็นเรื่องระบบฟอกเลือด ท่านก็ไปของท่านอีก

“ท่านหลีกหลีกเลี่ยงตอบว่า จะประสานมือกับพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ ก็มากล่าวในประเด็นว่า เรื่องจะกลับประเทศไทยจะไม่ออกกฎหมาย จะไม่เกี๊ยะซียะ (รอมชอม) กับพลังประชารัฐ แล้วก็ไม่ใช้ พรรคเพื่อไทยด้วย ผมต้องเรียกไปยังนายกฯ ทักษิณว่า ผมได้ยินมาอยู่แล้ว ยาวนานหลายวันที่ผ่านมาคงจำกันได้ ผมว่ามันมีดีล (ข้อตกลงลับ) หนึ่ง ซึ่งเป็นดีลที่ไม่สมควร รวมทั้งไม่เหมาะจะดีล แล้วก็ไม่มีวันจะเป็นไปได้อีก รวมทั้งนี่หนักกว่าสุดซอย เนื่องจากหนึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะ สองยิ่งกว่าการลักหลับ และก็จะกลายคือปัญหาใหญ่ แต่ผมขอไม่อนุญาตอธิบายความ”

นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ทักษิณ ต้องคดีถึงที่สุดแล้ว แต่คดีหลังไม่มีอายุความ มีคำพิพากษารวมโทษประมาณ 12 ปี ด้วยเหตุผลดังกล่าว ในทางกฎหมาย เมื่อทักษิณกลับไทยต้องถูกจับส่งศาล แล้วเข้าคุก แต่มีข้อเท็จจริงบ้างประการว่า มีดีลพิเศษ แต่ไม่มีวันเป็นไปได้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร และตอนสุดซอยที่ใช้ลักหลับแต่ครั้งนี้จะลักหลับของจริง ที่อธิบายเรื่องนี้ เพราะเหตุว่าตนพยายามหลีกเลี่ยงถ้อยคำภาษา

ยิ่งกว่านั้น ดีลพิเศษนี้ ความเป็นจริงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องแลนด์ สไลด์ของพรรคเพื่อไทย หลายคนพยายามตั้งคำถามว่า จู่ๆมาพูดเรื่องนี้ไปรับงานใครมา อีกทั้งที่สุดทนมาตั้งแต่ถูกหลอกใช้ให้ไปพบเสียงช่วยพรรคเพื่อชาติเมื่อปี 2562 ส่วน นปช.อีกกลุ่มก็แยกไปช่วยพรรคไทยรักษาชาติ แล้วมาล่าสุดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งช่วย นายก อบจ เชียงใหม่ ก็ขาดสะบั้น ใจสลายเลย

“เราอยู่ท่ามกลางความเจ็บอยู่แล้ว ถ้าไม่มาดูแคลน ผมก่อน โดยดูถูกว่า ไปรับงานใครมา แล้วผมก็ตอบกลับด้วยตรรกะเดียวกับทักษิณไปพูดที่ฮองกงนั้นว่า ท่านไปรับงานใครมาที่มาดูแคลนผม แต่ท่านไม่เข้าใจว่า มนุษย์ยอมตาย แลกเปลี่ยนชีวิตกันได้มันมีเรื่องศักดิ์ศรีของมันอยู่ ดูถูกหลายครากระทั่งได้ใจ ไม่นึกว่าสักวันหนึ่งมันจะทนไม่ได้เอานะ

“เมื่อมาเหยียบอีก ถุยน้ำลายใส่ ก็สุดทนเลย อีกทั้งที่ถูกดูถูกดูหมิ่น ทำอยุติธรรมกับผมมานานแล้ว แล้วก็ที่สำคัญที่สุดไม่ยุติธรรมกับประชาชนมานานแล้ว และก็ใครมันจะทนได้ หักหลังกันตลอดทางมา 30 ปีตั้งแต่คบกัน”

จตุพร ย้อนแสบทักษิณ

นายจตุพร ย้ำว่า วันนี้ไม่ได้รับงานใครมา

ถ้าหากทักษิณไม่พูดถึงตนก่อนในลักษณะที่ดูแคลุกลน เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เมื่ออกมาพูด แต่ไม่ตอบโต้ กลับใช้แนวทางกระแนะกระแหน อธิบายยัดเยียดว่า รับงานใครมา แล้วตนจะติดคุกหรึอ? เข้า ๆ ออก ๆ คุกมีคดีความมากมายกว่าแกนนำทุกคน

นายนิติธร กล่าวว่า เข้าใจรู้สึกและทราบถึงเรื่องราว ก็เลยเข้าใจมากขึ้นว่า เพราะอะไรเพื่อไทย-ทักษิณ ไม่ออกมาตอบโต้ เป็นเพราะกล้วความจริงจะหลั่งไหล ออกมามากมาย ด้วยเหตุดังกล่าว ทักษิณจึงต้องเบียงเบนไปทางเยาะสบประมาทเท่านั้น

พร้อมทั้งกล่าวว่า ที่ฟังมานั้น การที่นายจตุพร ไม่หนีคดีจึงก่อปัญหา กับตัวเอง เนื่องจากว่าทักษิณหนี คดีก็เลยต้องการให้ทุกคนหนีหมด ไม่ต้องการให้ใครมายึดโยงประชาชน รวมทั้งไม่ต้องการให้รู้ในสิ่งที่เขาทำกับประชาชน

“พอไม่หนีคดี แล้วไปอ้างต้องดูแลประชาชน มันก็เลยทำให้ความรู้สึกประชาชนต้อง แบกน้ำหนัก แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นคู่แค้นและก็เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และหนักใจกับคดีชุมนุม”

ต้นสังกัด เผย "บิว จักรพันธ์" และ อดีตแฟนสาว เตรียมแถลงข่าวพร้อมกัน 28 ม.ค นี้!!

บิว จักรพันธ์ กรณี ร้อนแรง ที่ ถูกพูดถึง แบบตลอด กับ ข้อความสำคัญดราม่า ของ นักแสดง ซีรีส์วาย บิว ที่ถูก อดีตแฟนสาว ออกมา เปิดเผย พฤติกรรม ขณะที่ กำลังคบกัน ชายหนุ่มบิว มีพฤติกรรม ไม่ดี การประทุษร้าย , นอกใจคบซ้อน

จนกระทั่งเกิดเป็นประเด็นใหญ่มโหฬารแล้วก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก จะเกิดแฮชแท็ก #บิวทําร้ายร่างกายผู้หญิง แล้วทางต้นสังกัดของนักแสดงหนุ่มต้องออก ประกาศพักงาน “บิว” แบบ ไม่มีระบุทันที

บิว จักรพันธ์ ค่าย

(23 ม.ค. 66) ทางต้นสังกัดของชายหนุ่ม บิว ได้ออกประกาศอีกหนึ่งฉบับ

“ประกาศ เรื่องการแถลง ข่าวกรณีพิพาทของ คุณจักรพันธ์ พุทธา (บิว) และ นางสาว…… (ปอย) ได้ทำให้แฟนคลับ และสาธารณชน เกิดความกังวล และไม่สบายใจ เป็นอย่างมาก บริษัทบีออนคลาวด์ จำกัด ในฐานะคนกลาง เราตระหนัก เป็นอย่างยิ่งว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่รับผิดชอบที่จะต้องชี้แจง และให้ความกระจ่ายต่อสาธารณชนเกี่ยวกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนี้

หลังจากได้มีการพูดคุยและหารือกันเป็นการภายในหลายครั้ง ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงในหลาย ๆ ประเด็นให้เกิดความเข้าใจ และรับทราบโดยทั่วกัน ทางบริษัทฯ จึงขอเรียนให้ทราบว่าใน วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 จะจัดให้มีการ Live Conference ขึ้น เพื่อชี้แจงข้อพิพาทนี้ระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยที่ทั้งคุณจักรพันธ์ และ คุณปอย รวมถึงตัวแทนของบริษัทบีออนคลาวด์ จำกัดจะเข้าร่วมการพูดคุยและแถลงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ในครั้งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในเวลา 14.00 น. ทาง Youtube Channel ของ Be On Cloud”

บิวจักรพันธ์ โพสต์
ย้อนคำทำนายหมอดูแม่นดั่งตาเห็น เคยเตือนก่อน บิว จักรพันธ์ โดนเปิดโปง

ทำเอาช็อกไปตาม ๆ หลังจากที่นักแสดงหนุ่มซีรีส์วายชื่อดัง บิว ถูกสาวที่อ้างว่าเป็นอดีตคนรักออกมาแฉยับกับพฤติกรรมว่าถูกนักแสดงชายหนุ่มประทุษร้าย คบซ้อน กลางทวิตเตอร์ ทำให้กลายเป็นใจความสำคัญร้อนในโลกโซเชียล กระทั่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไปเรียบร้อย

ซึ่งในช่วงปลายปีที่ผ่านมา หมอดูต๊อกแต๊ก A4 ก็ได้เตือนคนในวงการบันเทิงเอาไว้ รวมทั้งหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของการจะถูกเปิดโปงที่เคยทำนายเอาไว้
ในปี 2566 ส่วนในเรื่องของการโดนแฉก็สามารถเป็นไปได้ มันมีเกณฑ์อยู่แล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีโอกาสที่เป็นดาราเพศชายหรือเป็นคนมีชื่อเสียง ก็จะมีผู้ไม่หวังดีบางครั้งก็อาจจะไปทำอะไรบางอย่าง และก็ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ไม่ดี

เพราะฉะนั้นถ้าหากเกิดจะทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อนจะทำ โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่อายุยังไม่ถึง 30 มันมีเกณฑ์ที่จะเจอ เรียกว่าแม่นอย่างกับตามองเห็น ทำเอาคนไม่ใช่น้อยขนลุกกันไปเลย

จักรพันธ์บิว ร้อนแรง
PASTEL ประกาศปลด “บิว” พ้นพรีเซ็นเตอร์

เซ่นปมดราม่าร้อน แบรนด์ยาดมดัง PASTEL ออกประกาศยุติบทบาทการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ “บิว – จักรพันธ์ พุทธา” จากกรณี ที่นักแสดงชายหนุ่มที่โด่งดังจากซีรีส์วาย “บิว” กำลังเผชิญข่าวสารฉาวดราม่าร้อนอยู่ในขณะนี้ โดยทาง “BE ON CLOUD (บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด)” ต้นสังกัดได้ออกประกาศ “พักงานไม่มีกำหนด” กระทั่งเรื่องราว ที่เกิดขึ้น จะพิสูจน์ความเป็นจริงอย่างชัดเจน

ปัจจุบัน PASTEL แบรนด์ยาดมดัง ที่ “บิว จักรพันธ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์และก็เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ ได้ออกมาประกาศยุติบทบาทการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของนักแสดงหนุ่ม โดยบอกว่า

“ประกาศการยุติบทบาท การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคุณบิว ให้กับแบรนด์ PASTEL”

“จากกรณีข้อพิพาท และกระเข่าวที่เกิดขึ้นของ คุณบิว ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด ขอเรียนให้ทุกท่าน ทราบว่า บริษัทขอยุติบ ทบาทการเป็น พรีเซ็นเตอร์ของ คุณบิว ให้กับแบรนด์ PASTEL ตามนโยบาย ของบริษัทและให้มีผลทันที นับแต่วันที่ลง ในหนังสือฉบับนี้ จนกว่าข้อพิพาท จะได้รับการแก้ไข และได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม คุณไบเบิ้ล วิชญ์กาส สุเมตติกุล จะยังคงเป็นพรีเซ็นเตอร์และดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้กับแบรนด์ PASTEL ต่อไป

บริษัทขอบคุณทุกท่าน ที่ให้การไว้วางใจ และสนับสนุนแบรนด์ PASTEL เสมอมา

บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด

23 มกราคม 2566”

เม พรีมายา เปิดใจหลังเข้ามอบตัว ลั่นพร้อมสู้คดี ยืนยันไม่มีเจตนาหลอกประชาชน

วันที่19 เดือนมกราคม เมื่อเวลา 16.00 น. น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา)
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดจังหวัดนนทบุรี ที่ 41/2566 ลงวันที่ 17 มกราคม ในฐานความผิด

โดยคดโกงหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือเลียนแบบไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าเจอ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, เพื่อมอบตัวตามหมายจับ โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา แล้วก็นำตัวไปสืบสวน

เม พรีมายา สัมภาษณ์

โดย น.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา กล่าวว่า

ตัวเองเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 7 ปี เป็นคนทำงานแล้วก็พัฒนาตัวเองในเส้นทางนี้ โดยยอมรับว่าแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ้าง ตนเองก็พร้อมแก้ไขและก็ทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการพิสูจน์เรื่องจริง ซึ่งบางอย่างคนทำงานอย่างตนเอง บางครั้งก็อาจจะผิดข้อตกลงหรือกฎกติกาบ้าง ก็ไม่ทราบจริง ๆ แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวงใครในการทำงานทุก ๆ วันนี้ ส่วนใจความสำคัญการโฆษณาชวนเชื่อลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาทนั้น นางสาวพิชญ์นรี ระบุว่า ไม่ใช่โฆษณาคำชวนเชื่อ ทุกอย่างได้ให้การกับทางตำรวจแล้ว โดยธุรกิจของตนไม่ได้สร้างเรื่องหลอกหรือชวนเชื่อแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่า วันนึงทุกอย่างจะปรากฎขึ้นเอง

ขณะที่ นิ่ม เครือข่ายรายใหญ่รวมทั้งคนสำคัญทางภาคใต้ มีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องหรือไม่ ยืนยันว่า ทุกอย่างมีมูลความจริง เมื่อถาม น.ส.พิชญ์นรี หรือ เมพรีมายา ถึงหลักสำคัญผลกำไร ที่ยื่นต่อพาณิชย์พบว่า ไม่สอดคล้องกับ ที่โฆษณาสื่อโซเชียล แล้วก็เงินลงทุน เป็นเงินผิดกฎหมายไหมนั้น ยืนยัน ไม่จริง

เพราะเหตุว่าตนเองทำงานอยู่หน้าบ้าน ไม่ได้รู้ดีเทลทุกอย่าง และก็จุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตนเองไม่สามารถตอบไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ ที่ผ่านมาชีวิตตนเองสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมและก็คนรอบข้างตลอด

ด้าน พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. กล่าวมาว่า คดีนี้สืบเนื่องจากที่มีผู้มาแจ้งเหตุร้องทุกข์ ประกอบกับตำรวจไซเบอร์ได้รับนโนบายให้ดำเนินการตรวจสอบเพจที่มีการชักชวนลงทุนเกินความเป็นจริง

จนถึงได้ไปพบว่า “พรีมายา” เข้าข่ายกรณีดังกล่าว ตำรวจก็เลยได้ตรวจทานแล้วก็หาหลักฐานเพิ่มเติม กระทั่งสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้เมื่อวันที่ 13 เดือนมกราคม ที่ผ่านมา และก็ต่อมาพบว่าญาติของ น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม ผู้ครอบครองแบรนด์ และหนึ่งใน ผู้ที่ถูกออกหมายจับ

กำลังจะออกนอกประเทศ ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. สกัดจับ และก็ทางตำรวจไซเบอร์ก็เลยต้องปฏิบัติการจับผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วน แม้ว่าจะยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ แต่ก็เป็นการปฏิบัติการก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้น

ด้าน พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เผยออกมาว่า พฤติการณ์เป็นการโพสต์เชื้อเชิญลงทุนจำนวนเงิน 6,000 บาท รวมทั้งจะได้ผลกำไร 15 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน

ซึ่งตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 11 หมาย แล้วก็จับตัวได้ 4 คนแล้ว ส่วนที่เหลือจะเร่งจับได้ครบภายในสัปดาห์นี้ หนึ่งในนี้ก็มีหน้าม้าที่ฯลฯโพสต์ เชื้อเชิญมาลงทุนกระทั่งทำให้แบรนด์พรีมายาโด่งดัง

ซึ่งตำรวจจะต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม

โดยได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์และก็บัญชีธนาคารมาพิจารณา ว่าเป็นการหลอกลงทุนเกินใช่หรือไม่ ขณะที่รายงานการเสียภาษีอากรเองก็ไม่ได้สอดคล้องกับผลกำไรที่โฆษณา

แต่พื้นฐานแจ้งข้อกล่าวหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อน ส่วนข้อกล่าวหาอื่นอยู่ระหว่างตรวจทานเพิ่มเติม ว่าลงทุนได้กำไรตามคำโฆษณาจริงหรือไม่ เป็นการลงทุนในลักษณะหลอกลวงหรือไม่ ขณะที่แฟนหนุ่มของเม ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะเหตุว่าไม่ใช่ผู้โพสต์ชักชวนลงทุน ส่วนหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลสำรวจเพจชักชวนลงทุนอื่น ๆ ที่มีลักษณะชวนลงทุนเกินจริงเพิ่มเติม

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เส้นทางการเงินของพรีมายา เชื่อมโยงกับดารานักแสดงกลุ่มนึง ตำรวจไซเบอร์ก็ขอดูหลักฐานเพิ่มเติมก่อน ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยียืนยันว่า ที่มีการแชร์เรื่อง จะมอบเงินนำจับ 5 แสนบาทให้ ผู้แจ้งเบาะแสจับ เม ยืนยันว่าตำรวจ ไม่ได้มีการตั้งรางวัลนำจับดังกล่าว แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเฟกนิวส์

เม พรีมายา เจ้าของ

ส่องชีวิตหรูของ CEO “เม พรีมายา”

สวย มั่งมี เก่ง กับไลฟ์สไตล์ปังจนถึงหลาย ๆ คนริษยา ทีมข่าวสารขอพาทุกคนไปส่องชีวิต รวมทั้งไลฟ์สไตล์ของ CEO สาวคนนี้

เม พรีมายา ปารีส

เมเที่ยว

ซึ่งสาวเม ชอบมีอัปเดตไลฟ์สไตล์สุดหรูหราในอินสตาแกรม ทั้งยังการเที่ยวต่างประเทศ บินโดยเครื่องบินส่วนตัว ในชุดแบรนด์เนมหมดทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบจัดเต็ม ซึ่งต้องกล่าวว่าเป็นชีวิตที่ทำเอาใครต่อใครต่างริษยาไปตาม ๆ กัน

พรีมายาส่วนตัว

เมพรีมายาโพส

 

พื้นเพของเมพรีมายาเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช เกิดเมื่อ 31 มีนาคม พุทธศักราช 2537 ครอบครัวมีอาชีพทำสวน เธอเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่งว่า เธอเป็นบัณฑิตเกียรตินิยม ที่ได้สัมผัสเงิน 100 ล้าน ภายในเวลาเพียงแค่ 9 เดือน ความสำเร็จของตนนั้นเกิดจากความขยัน รวมทั้งความเป็นนักสู้ที่เอาชนะทุกอุปสรรค

ดีเจมะตูม ขอโทษแม่ มีข่าวเสียหายอีกแล้ว ก้ง101ร่ำไห้! ยันเอาเรื่อง วาวา ถึงที่สุด

ดีเจมะตูม เปิดเผย จัดฉากจับมิจฉาชีพ ไม่ได้ทำตามใจตัวเอง เพียงแค่ต้องการคุ้มครองปกป้องกิตติศัพท์ ขอโทษแม่ มีข่าวสารเสียหายอีกแล้ว ก้ง 101 ร่ำไห้ สูญเงิน 8 ล้าน กว่าจะได้มา ยากมาก ยัน เอาเรื่องถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2566 หลังจบรายการ โหนกระแส ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร รวมทั้ง นายณัฐกานต์ เหล่าน้ำใส หรือ ก้ง 101 ผู้เสียหาย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชน กรณีสาวมิจฉาชีพ ชื่อ วาวา ทำทีตีสนิทแล้วก็แอบอ้างชื่อ พร้อมเชิญชวนคนอื่น ให้ร่วมลงทุนต่าง ๆ มีผู้เสียหายสูญเงินกว่า 8 ล้านบาท ก่อนมีคลิป มะตูม จัดฉาก ล่อเหยื่อมิจฉาชีพ คนดังกล่าว ทำทีว่าจะเลี้ยงปีใหม่เข้ามาที่ร้านอาหาร ที่ตนเป็นเจ้าของ ก่อนให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจแสดงตัวจับฉับพลันตามที่เป็นข่าวเสนอ ไปก่อนหน้านี้ อ่านข่าว ดีเจมะตูม จัดฉากเดือดรวบ วาวา มิจฉาชีพ ถลกกางเกง อึ้งอีเอ็ม ตุ๋นสิบ ๆ ล้าน

ดีเจมะตูม ก้ง

ดีเจมะตูม เปิดเผยว่า รู้จักกับผู้ก่อเหตุไม่ถึง 1 เดือน

ตอนแรกทำทีเป็นลูกค้าร่ำรวย ๆ เข้ามาที่ร้าน รวมทั้งเปย์จ่ายค่า อาหารเครื่องดื่ม จากนั้นพอได้คุยกัน ผู้ก่อเหตุเชิญชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจ อ้างถึงว่า จะให้เป็นหุ้นส่วน แต่ยังไม่มีเวลา ไปทำเรื่องซื้อขายที่ดิน ตนจึงเลขาส่วนตัวช่วยประสานให้ทุกอย่าง

จนกระทั่ง ถึงวันซื้อขายที่ดิน ผู้ก่อเหตุไม่ยอมมา แต่โอนเงินให้เลขา 1 ล้าน เพื่อยืนยันว่า จะซื้อที่ดินแน่นอน พอหลังจากนั้น 1 ชั่วโมง กลับให้เลขาของตนโอนกลับไป พร้อมบอกกลับบ้านไปได้เลย ส่วนเรื่อง ซื้อขายที่ดิน จะดำเนินการต่อเอง ทำให้ตนเริ่มสงสัย พอตรวจทานจึงพบว่า ผู้ก่อเหตุ มีคดีความติดตัวอยู่ หลังจากนั้นตนจึง ตีตัวออกห่าง

ดีเจมะตูม บอกอีกว่า พอได้คุย กับน้องก้งที่เป็นผู้เสียหาย จึงทำให้ทราบว่า ผู้ก่อเหตุแอบอ้างชื่อตน ไปหลอกให้ร่วมลงทุน 8 ล้านบาท ทำให้ตนเกิดความไม่สบายใจ ต้องการช่วยผู้เสียหาย รวมทั้งต้องการจะยืนยัน ความบริสุทธิ์ของตน ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับขบวนการมิจฉาชีพ

จึงวางแผนกันว่า จะพาผู้เสียหาย มาที่ร้านค้าของตน ในวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค. 66 ซึ่งเป็นวันที่ร้านค้าหยุด แต่จะจัดฉากให้เหมือนร้านเปิดตามปกติ พอผู้ก่อเหตุมามาถึงร้าน จึงเกิดเหตุการณ์ ขึ้นตามคลิป ซึ่งมีตำรวจมาด้วย เพราะเหตุว่าก่อนนี้ได้ขอคำแนะนำตำรวจแล้ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังมีหมายจับ จากคดีอื่น ๆ ด้วย

ตอนที่ผู้เสียหาย กับผู้ก่อเหตุยื้อกัน ตนมองเห็นมีวัตถุบางอย่าง อยู่ตรงข้อเท้าผู้ก่อเหตุ ตอนแรกมีความคิดว่า อาจจะเป็นระเบิดหรือปืน เนื่องจากว่าดูละครเยอะแยะเกินไป แต่พอเปิดดูเห็นผู้ก่อเหตุใส่กำไลอีเอ็ม ในคลิปหลายคนเห็นว่ารุนแรง แต่ไม่มีการทะเลาะวิวาท ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย มีเพียงแค่ ราดน้ำอัดลมใส่ หัวเท่านั้น ซึ่งตนเป็นคนห้าม ยืนยันว่า เหตุการณ์ในคลิป ไม่ได้ทำตามใจตัวเอง แต่อยากออกมาปกป้องรักษากิตติศัพท์ตนเอง

ดีเจมะตูมเอาเรื่อง

ดีเจมะตูมบอกอีกว่า อยากขอโทษแม่ ต้องการกอดแม่

ด้วยเหตุว่าเคยสัญญาไว้ว่า จะไม่มีข่าวเสียหายอีกแล้ว ทำให้แม่เครียด แต่อยากที่จะให้แม่รู้ดีว่า สิ่งที่ทำเนื่องจากยืนยัน ความบริสุทธิ์ของตนเอง เพราะหลังจากที่เป็นข่าว มีผู้เสียหายติดต่อ เข้ามาเยอะแยะมาก

ด้านนายณัฐกานต์ เหล่าน้ำใส หรือ ก้ง 101 เปิดเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุ อ้างถึงว่า รู้จักกับดีเจมะตูม มานาน 2-3 ปี แล้วก็มีการสร้างโปรไฟล์ เพื่ออวดกล่าวถึงว่าตนเองมั่งคั่ง ทำธุรกิจหลายอย่าง กระทั่งกระทั่งตนหลงเชื่อ ร่วมลงทุนไป 8 ล้าน ทำธุรกิจออมทอง แล้วก็ธุรกิจอื่น ๆ

จากนั้น ผู้ก่อเหตุพาตน ไปดูตู้เซฟ ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง อ้างถึงว่า ข้างในตู้เซฟมีทอง 1,000 บาท และก็กล่าวว่าหากลงทุนไปแล้ว ไม่ได้เงินคืนมา ให้นำกุญแจไป มาไขเอาทองในตู้เซฟได้เลย พร้อมทั้งให้กุญแจไว้ เป็นหลักประกัน สร้างความน่าวางใจ ยิ่งทำให้ตนหลงเชื่อ

นายณัฐกานต์ บอกอีกว่า ผู้ก่อเหตุยังขายรถปอร์เช่ รุ่นบ็อกซเตอร์ ในราคา 2.5 ล้าน จากราคาเต็ม 5 ล้าน และขายนาฬิกาปาเต๊ะท่า ในราคา 2.5 ล้าน แต่ให้เงินมัดจำก่อน 5 แสน หากมีเมื่อใดค่อยมาจ่าย

แต่พอทราบความจริงว่าถูกหลอก เพราะเหตุว่ายังไม่ได้เงิน ตามที่ตกลงไป พอไปสืบถึงทราบว่าผู้ก่อเหตุ ขายนาฬิกาปาเต๊ะ ปลอมให้ ส่วนรถปอร์เช่รุ่นบ็อกซเตอร์ ก็ไปเช่ามาเป็นรายวัน ก็เลยปรึกษาทนายและดีเจมะตูมร่วมกันจับมิจฉาชีพ จนถึงเกิดเหตุการณ์ขึ้นตามคลิป

นายณัฐกานต์ บอกอีกว่า ตนไม่ได้เกินกว่าเหตุ แต่ต้องการช่วยทำเรื่องนี้ให้เป็นข่าว เพราะว่ามีผู้เสียหายมากมายมาก รวมมูลค่า 100 ล้าน ส่วนเงิน 8 ล้าน ที่ถูกโกงไป มาจากการไลฟ์สดขายสินค้าเช้าถึงเย็น มีพ่อแม่ช่วยไลฟ์ด้วย เหนื่อยมากกว่าจะได้เงินมาขนาดนี้ แม่ว่าจะได้เงินกลับคืนมายาก แต่จะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้คนก่อเหตุออกมาหลอกคนอื่นอีก

ทางด้าน นายศีรวิษ สุขชัย หรือ ทนายเบียร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้เสียหายทราบว่าโดนโกงแล้ว ก็ได้นำกุญแจที่ผู้ก่อเหตุให้ไว้ ไปไขตู้เซฟที่ธนาคาร แต่ไม่สามารถเปิดได้ ตนก็เลยไปแจ้งความข้อหาฉ้อโกง และก็อายัดตู้นิรภัยไว้ก่อน

หลังจากแจ้งความไปแล้ว พบว่า ผู้ก่อเหตุมีหมายจับ 9 คดี แต่ถอนไปแล้ว 8 คดี ทำให้ยังเหลือหมายจับอีก 1 คดี อยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนเกิดเหตุการณ์ในคลิป ได้ไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจบางซื่อ พอผู้ก่อเหตุเข้ามาที่ร้าน ทางตำรวจจึงควบคุมตัว ไปดำเนินคดีทันที ซึ่งคดีที่ผู้ก่อเหตุถูกจับนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับลูกความของตัวเอง

“ทรงอย่างแบด” ไม่ได้เป็น เพลงชาติ สำหรับวัยรุ่นฟัน น้ำนมอย่างเดียว ยังเป็นขวัญใจวัยรุ่นฟันปลอม และฟันผุ!

กลายเป็นกระแสอยู่ไม่น้อย สำหรับเพลงชาติวัยรุ่นฟันน้ำนม ที่น้อง ๆ หนู ๆ ร้องกันกระจาย มีหลากหลายคลิป ออกมาเรียกรอยยิ้ม สำหรับ ทรงอย่างแบด ของวง Paper planes ที่มีสองสมาชิกอย่าง “ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ” นักร้องนำ กับ “เซน นครินทร์ ขุนภักดี” มือเบส โดยวันนี้ ซาฟารีเวิลด์ เตรียมแตก เนื่องจากว่า สองหนุ่มจะไปแสดงโชว์ เซอร์ไพรส์ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ วันเด็กแห่งชาติ 2566

ซึ่งตอนนี้ กระแสนิยมเพลงทรงอย่างแบดไม่ได้ถูกใจเพียงแค่วัยรุ่นฟันน้ำนม เพราะว่ากำลังลุกลามไปถึง วัยรุ่นฟันปลอม หลังจากที่มีคลิปโยกหัว กันกระจุย ในงานเปิด โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา ขณะที่วัยรุ่นฟันผุ อย่าง “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” ที่ปลื้มทั้งสองหนุ่ม เป็นอย่างมาก ถึงขั้นขอร่วมเฟรม พร้อมเปิดเผยภาพแล้วก็แคปชั่นในอินสตาแกรมว่า “ร้องเมื่อเช้าเจอน้องตอนบ่าย ขวัญใจฟันน้ำนมแล้วยังขวัญใจฟันผุด้วยนะครับ” ทำแฟนคลับเข้ามาเมนต์ฮากันกระจาย

ทรงอย่างแบด ครู

ทรงอย่างแบด กระหึ่ม ! Paper Planes ทำสวนสัตว์แทบจะแตก-แถมน้องโลมา… คิวอย่างเป๊ะ !!

ทรงอย่างแบดฟีเวอร์จัด ปังไม่ไหว ! Paper Planes ขึ้นโชว์วันเด็ก 2566 ที่ซาฟารี เวิลด์ วัยรุ่นฟันน้ำนม พร้อมใจร้องดัง กระหึ่มลั่นสวนสัตว์ ฝูงน้องโลมากระโดด โชว์ตัวถูกจังหวะ รู้คิวสุด ๆ

กะจะทำเซอร์ไพรส์ เหล่าแฟนคลับวัยรุ่น ฟันน้ำนม ในวันเด็กปี 2566 แต่แผนของ 2 หนุ่มสุดร็อก ฮาย ธันวา รวมทั้ง เซน นครินทร์ จากวง Paper Planes ก็ดันมาถูกเฉลยคำตอบซะก่อน ว่าจะไปจัดคอนเสิร์ตที่สวนสัตว์ ซาฟารี เวิลด์ ทำให้งานนี้ เหล่าผู้ปกครองต่างจัดเตรียมความพร้อม พาลูก ๆ มุ่งตรงไปร้องเพลง “ทรงอย่างแบด” กันอย่างใจจดใจจ่อ

และจากนั้นก็ถึงวันเด็กแห่งชาติ ที่เหล่าวัยรุ่นฟันน้ำนม รอคอย งานนี้ก็มีผู้ปกครอง จากทั่วสารทิศ มารวมตัวกันที่สวนสัตว์ ซาฟารี เวิลด์ กว่า 5,000 คน กระทั่งเกิดเป็นปรากฏการณ์ วงร็อกสวนสัตว์แตก แม้ทั้งสองหนุ่ม จะมาโชว์แค่เพลงเดียว เพราะว่าต้องไปทำงาน ของวงต่อ แต่เมื่อเสียงเพลงทรงอย่างแบด ดังขึ้น เด็ก ๆ ก็พร้อมใจกัน ร้องเสียงดัง ฟังชัด กระหึ่มลั่นสวนสัตว์เลยทีเดียว

แถมยังปิดท้ายโชว์ สุดประทับใจ ด้วยฝูงน้องโลมาที่กระโดด ขึ้นมาจากสระน้ำ ได้เข้ากับจังหวะเพลงสุด ๆ ทำให้งานนี้ได้ใจวัยรุ่นฟันน้ำนมรวมทั้งผู้ปกครองไปเต็ม ๆ

นอกจากนี้ ฮาย Paper Planes ยังได้กล่าวความรู้สึก ที่มาร้องเพลงในวันนี้เพราะว่า “เรามีความคิดว่า ซาฟารีเวิลด์ เป็นที่แรกที่ทำให้เราได้มองเห็นคลิปและก็ได้รู้จักกับน้อง ๆ พวกเราเลยมีความรู้สึกว่าวันเด็กนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เจอกับน้อง ๆ เลยขอทางทีมงาน ติดต่อทาง ซาฟารีเวิลด์ เพื่อมาเจอกับน้อง ๆ แบบจริง ๆ

และก็เราอยากขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ ของน้อง ๆ ที่ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลกัน พวกเราอาจจะถูกเรียกว่าเป็นหัวหน้าแก๊ง แต่ผมคิดเสมอว่าตัวเองเป็นพี่ ๆ ของน้อง ๆ ผมเองก็ยังไม่ได้อยู่ในวัย ที่ทุกอย่างถูกต้อง ยังมีผิดบ้างแล้วก็ดีบ้าง แต่ผมมั่นใจว่าเราและผู้ปกครองจะร่วมมือกันพาน้อง ๆ ไปอยู่ในจุดที่สมเหตุสมผลและก็อยู่ในจุดที่ดีที่สุด ขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ ที่ซัพพอร์ตพวกเราและ สร้างมาตรฐานใหม่ การไม่ตัดสิน คนจากข้างนอก”

ทรงอย่างแบด ซาฟารี

เปิดประวัติ ‘Paper Planes’ หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม

มาทำความรู้จัก ‘Paper Planes’ หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม ผู้ครอบครองผลงาน เพลงสุดได้รับความนิยม ‘ทรงอย่างแบด(Bad Boy)’

Paper Planes วงร็อกอัลเทอร์เนทีฟ จากค่าย Genie records ที่ประกอบไปด้วย 2 สมาชิก ฮาย ธันวา (ร้องนำ) แล้วก็ เซน นครินทร์ (เบส) เดบิวต์อย่างเป็นทางการในช่วงปี พ.ศ. 2560 ภายใต้โปรโปรเจกต์อัลบั้ม Showroom Vol.3 รวมทั้งปล่อยผลงานเพลงแรก ออกมาในชื่อเพลง ก่อนเสียเธอไป ต่อด้วย ซ้ำซ้ำ, เก็บฉันไว้ทำไม, คำตอบเดิม, กุหลาบพิษ, ไร้ความหมาย, ความคิดถึงที่ส่งไปไม่ถึง และ กำหมัด

จนกระทั่งเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา พวกเขาก็ได้ออกมา ปล่อยเพลง ป๊อปพังก์ สุดร้อนแรง ที่มีเนื้อหา กระแทกใจ คนฟังอย่างเพลง ‘เสแสร้ง Feat. MOON’ พร้อมกวาดยอดวิว บนยูทูบไปกว่า 102 ล้านวิว (ข้อมูลวันที่ 14 ม.ค.66) นับได้ว่าเป็นผลงานเพลงที่ที่ทำให้ Paper Planes เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ต่อมาในช่วงปลายปี Paper Planes ก็ได้กลับมาสาดความฉบับป๊อปพังก์ ผ่านเพลง ‘ทรงอย่างแบด(Bad Boy)’ ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการเพลงไทย ด้วยการเป็นเพลงฮิตที่แก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนมในยุคนี้ประทับใจ

ทรงอย่างแบด เพลง

วันนี้ จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ ‘Paper Planes’ หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนมให้มากขึ้นกว่าเดิม

เดิมที Paper Plane ประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คนด้วยกัน ได้แก่ ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ, หยก คีตเมศร์ ฉันทเกษมคุณ แล้วก็ แจ๊ส ฤทธิ์อำนาจ ขวานทอง ก่อนที่ แจ๊ส จะลาออกจากวงไปด้วยเหตุผลส่วนตัว ทำให้วงมีสมาชิกใหม่มากขึ้นมาคือ ‘เซน นครินทร์ ขุนภักดี’ และ หลังจากปล่อยเพลง หลอก ไปได้ไม่นาน หยก ก็ได้ลาออกจากวงไปด้วยเหตุผลส่วนตัว ทำให้ปัจจุบันนี้ Paper Planes มีสมาชิกทั้งหมด 2 คน คือ ฮาย รวมทั้ง เซน

พวกเรามาเริ่มทำความรู้จักกัน ที่นักร้องนำ อย่าง ‘ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ’ หรือที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันในฐานะ ‘HYE’ ศิลปินเดี่ยว ที่มีผลงานเพลงฮิตติดหูมากมาย ผ่านการปล่อยโปรเจกต์ของตัวเองในชื่อ Side Project ที่ประกอบด้วย10 เพลงฮิต อย่าง ไอฟาย, ล้อเล่นได้มั้ย, ทักมาเอาไร, เพื่อนสัมพันธ์, จิ๊กซอว์, ติดอยู่ที่เดิม, ด้วยรักและ F*CK YOU (FU), แบบนี้เอง, ระยะเพื่อน และ ยินดีด้วยนะ

นอกจากนี้ ‘HYE’ ยังเป็นโปรดิวเซอร์มือทอง, ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ผู้อยู่เบื้องหลังดนตรี รวมทั้งการสร้างผลงานคุณภาพออกมาประดับวงการ T-POP ไว้มากมาย อย่างเช่น

เพลงอยู่ดีๆก็หาย ของ Wonderframe ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 148ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงมูเตลู ของ Pixxie ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 14ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงหักหลัง ของ Retrospect ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 12ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงโดนเท่แต่เท่อยู่ ของ bamm ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 10ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงดอกไม้ไฟ ของ Mirrr ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 29ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงไม่ได้ก็ไม่เอา ของ Pixxie ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 8ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงเขาไปแล้ว ของ Wonderframe ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 86ล้านวิวบนยูทูบ

ฮายเซนงาน

มาต่อกันที่หัวหน้าแห่งแก๊ง วัยรุ่นฟันน้ำนม คนที่ 2 อย่าง ‘เซน นครินทร์ ขุนภักดี’

ตำแหน่งมือเบสประจำวง ‘Paper Planes’ ซึ่ง เซน ได้เริ่มเข้ามาเป็นมือเบสประจำวงในช่วงซิงเกิล ‘ซ้ำซ้ำ’

“ทรงอย่างแบดแซดอย่างบ่อย เธอไม่อินกับผู้ชาย bad boy
ทรงอย่างแบดแซดอย่างบ่อย เธอไม่รักฉันก็คงต้องปล่อย
โธ่พ่อหนุ่ม bad boy bad boyทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย
ปล่อยเธอไปกับไอ้หนุ่ม good boy…”

ท่อนฮุกสุดมันจากเพลง ‘ทรงอย่างแบด(Bad Boy)’ บทเพลงที่มีเนื้อหา กล่าวแทนใจ คนทรงแบด หรือคนที่มีภาพลักษณ์ภายนอก เหมือนแบดบอย ที่ชอบถูกตัดสินว่าเจ้าชู้ แต่ความจริง คือเสียใจบ่อยมากมาก จนสามารถเรียกได้ว่า “ทรงอย่างแบดแซดอย่างบ่อย”

ซึ่งเพลงนี้ เกิดขึ้นจาก การที่ฮายไปเห็นโพสต์ในไอจีสตอรี่ ของเพื่อนที่มีข้อความประมาณว่า “ทรงโคตรแบด แซดโคตรบ่อย” แล้วเกิดความคิดที่จะนำมาแต่งเป็นเพลง โดย ‘ฮาย’ แล้วก็ ‘เซน’ ได้เล่าถึงที่มาเพลงนี้ว่า “ปกติเรามักถูกมองจากภายนอกว่า

ดูลุคแบด ๆ ดูแข็งกร้าว ก็เลยเข้าใจว่า พวกเราเป็นคนแบบนั้น แต่จริง ๆ พวกเราก็ไม่ได้แข็งกร้าวขนาดนั้น เราเป็นคนปกติกลาง ๆ คนนึงเลย ตอนแรกเพลงนี้ ไม่ได้อยู่ในแพลน ที่พวกเราจะทำกัน

แต่จู่ๆวันที่เราตกลงกันว่า จะไปนั่งทำเพลง เราดันคิดถึงเรื่องนี้ แล้วคิดถัดไปว่าถ้าทำออกมาเป็นเพลง น่าจะเป็นอะไรที่สนุกดี เลยลองทำเพลงนี้ขึ้นมาก่อน เป็นเพลงแรก ซึ่งใช้เวลาวันเดียว ก็ได้ทั้งยังเนื้อร้อง รวมทั้งดนตรีจบเลย เพราะว่าตอนทำเรารู้สึกสนุกมาก”

ซึ่งหลังจากที่ Paper Planes ปล่อยเพลงนี้ออกมาได้ประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ ก็ได้มีไวรัล ‘ทรงอย่างแบด’ เกิดขึ้นในโลกโซเชียล

โดยเริ่มจากการมีคลิปที่เด็กวัยอนุบาล ร้องเพลงนี้ขึ้น มาอย่างสนุกสนาน ในท่อนว้ากหนัก ๆ ที่ร้องว่า “โธ่พ่อหนุ่ม bad boy bad boy” ที่ ซาฟารีเวิลด์ จากนั้นก็มีคลิปสวย ๆ ของเด็ก ๆ

ออกมาอย่างตลอด จนถึงกระทั่งเริ่มมี ผู้ปกครองอุ้มน้อง ๆ หนู ๆ มาดู Paper Planes เล่นสดมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นที่ ฮาย ต้องพูดก่อนจบคอนเสิร์ตว่า

“สัญญาได้ไหมว่าหากดูการแสดงดนตรีจบแล้ว จะไปแปรงฟันกัน ก่อนนอนอย่าลืมแปรงกันนะโอเคไหม” พร้อมทิ้งท้ายว่า “ทำไม ชีวิตผมถึงเปลี่ยนไปเยอะ ขนาดนี้ (หัวเราะ)” ด้วยเหตุผลนี้ก็เลยนำมาซึ่งการทำให้เพลง ‘ทรงอย่างแบด’ กลายไปเป็นเพลงชาติ ที่วัยรุ่นฟันน้ำนม ถูกใจ แล้วก็ทำให้ Paper Planes ได้รับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม ไปนั่นเอง

ฮายเซนโชว์

โดย ทรงอย่างแบด ‘ฮาย ธันวา’ ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลง

และความรับผิดชอบ ที่ต้องเพิ่มมากขึ้นของ Paper Planes ในคราวนี้ผ่านคลิป วิดีโอสัมภาษณ์ จากรายการ WOODY FM ว่า “ผมผมรู้สึกว่า เรานึกถึงหนังพวกซูเปอร์ฮีโร่ คือผมไม่ได้รู้สึกเป็นซูเปอร์ฮีโร่นะ แต่ว่ามันน่าจะเปรียบเทียบได้ดี คือวันนึงที่ซูเปอร์ฮีโร่มีพลังอะไรขึ้นมา เขาจะมีภารกิจที่ต้องทำ กู้โลก ไปต่อสู้กับปีศาจร้าย แต่ว่าในระหว่างทางนั้นพลังของเขาก็มีผลเสียอยู่ อย่างเช่นการทำบ้านเมืองพัง การทำอะไรไปโดยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ การที่วันนึงผมมาเป็นหัวหน้าแก๊ง เวลาเด็ก ๆ เขาชอบเราบางเรื่อง เด็ก ๆ เขาซึมซับไปได้เร็ว โดยที่เขาไม่ได้ตัดสิน หรือว่าเขาไม่สามารถวิเคราะห์ได้ อะไรที่มันสุ่มเสี่ยง หรือที่มันไม่สามารถอธิบายได้ ณ ตอนนั้นผมจะเลี่ยงก่อน แต่อะไรที่อธิบายได้ ผมจะอธิบายเลย อย่างเช่น การดื่มเหล้าเบียร์ สูบบุหรี่ ผมว่าสุดท้ายแล้วเด็กแค่ต้องรู้ว่าอันไหนเป็นข้อดี หรือข้อเสีย แล้ววันนึงเขาก็จะรับมันไปเอง แม้ว่ามันจะเป็นข้อดีหรือข้อเสียก็ตาม แต่ที่สำคัญคือเขาต้องรู้ว่ามันมีผลยังไง ทั้งในผลดีและผลเสีย ผมเลยคิดว่าเราจะต้องคิดเรื่องนี้กันมากขึ้น เพราะเด็ก ๆ ก็ติดตามเยอะมากขึ้นครับ”

"จิ๊บ คีตภัทร" ขอเคลียร์ ปมคลิปฉาว ยันไม่ใช่ตัวเอง ฟ้องแน่ ทำเสียหาย

ดาราสาวยุค 90 “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” โพสต์ IG ชี้แจงเรื่องข่าวหลุด ที่หลายคนเดาว่าเป็นตัวเอง ยืนยันไม่ใช่ เนื่องจากว่ามาหาครอบครัว ที่สหรัฐฯ ลั่นดำเนินดคีแน่ๆ ฐานทำให้ตนเกิดความเสียหาย ยันไม่ใช่ นางเอก จ. ถูกปล่อยคลิปลับ เจอเรียกเงิน 4 แสน จ่อเอาผิด คนกุข่าวมั่ว ทำเสียหาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด

จิ๊บ คีตภัทร ข่าว

เป็นประเด็นร้อน สะเทือนแวดวงบันเทิง

ภายหลังที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่ง ได้ออกมากล่าวอ้าง เผยข้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนชายหนุ่มอัดคลิป แบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ปัจจุบันมีคลิปหลุดออกมา เร็ว ๆ นี้ เจ้าตัวเตรียมแถลงข่าวแน่นอน” ถัดมา ก็ได้โพสต์อีกว่า

“โดนแล้ว! อดีตนางเอกดัง ช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดชายหนุ่มนอกวงการ หลังขายคลิปตนเอง ที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับ กลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที มองเห็นหน้าตนเองชัดเจน เลยทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่น ไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่อง ให้ถึงที่สุด” จนกระทั่งส่งผลให้เกิด การเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่าอดีตนางเอก จ. ช่องหลากสี นั้นคือคนไหนกัน ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีชื่อของ “จิ๊บ – คีตภัทร อันติมานนท์” นักแสดงสาว ยุค 90 ผุดขึ้นมา ว่าใช่หรือไม่ใช่

ล่าสุด วันนี้ (13 เดือนมกราคม 2566) “จิ๊บ” ได้ออกมาชี้แจงประเด็น ที่ถูกโยง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว

ยืนยันว่า ไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่นอน พร้อมจะดำเนินคดีตามกฎหมาย กับผู้ที่ทำให้เจ้าตัว รวมทั้ง ครอบครัว ได้รับความเสียหาย โดยกล่าวว่า

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ

จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ

อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

พร้อมเขียนแคปชั่นใต้โพสต์ด้วยว่า “ขออนุญาตชี้เเจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บเเน่นอนค่ะ”

โดยแฟนคลับ ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น แล้วก็ ส่งกำลังใจ ให้สาวจิ๊บ อย่างล้นหลาม มากมาย

ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนแรงอย่างมากมาย หลังก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา มีข่าวลือแรง ว่ามีอดีตนางเอก จ. ช่องหลายสี ถูกขู่ ปล่อยคลิปลับ คลิปฉาว เรียกเงิน 4 แสนบาท ซึ่งคนไม่ใช่น้อยก็เดาไปเรื่อย และก็ ท้ายที่สุดหลายๆคนมาพุ่งเป้า ที่อดีตนางเอกมีชื่อเสียง จิ๊บ-คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ถูกโยงว่า เป็นคนในคลิปฉาว ทำเอาเขาเสื่อมเสียชื่อเสียงขึ้นมาทันที

จิ๊บ คีตภัทร สวย

เปิดประวัติ “จิ๊บ คีตภัทร” สาวสวยฝีมือดี ที่คนอยากรู้จัก ให้มากขึ้น

ความคืบหน้าล่าสุด ในโลกออนไลน์ มีหลายๆคนถามมาจำนวนมาก ว่าสาวจิ๊บ ประวัติมีอะไรยังไงบ้าง บ้างก็กล่าวว่าสวยเด่น อยากรู้งานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จะได้ไปดูย้อนหลัง งานนี้เราเลยไม่พลาด มาอัพเดทให้แล้วจ้า…

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เป็นนักแสดงในสังกัดดาราวิดีโอและสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์ จิ๊บเป็นนักแสดงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของนักแสดงชายคือ จิม-เจจินตัย แวนดิว นั่นเอง…

โดยจิ๊บเริ่มเข้าสู่วงการสายบันเทิงไทยเป็นนักแสดงมีผลงานเรื่องแรกเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกหนึ่งเรื่องละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้คีตภัทรเป็นนักแสดงที่รู้จักกันและมีชื่อเสียงในยุคนั้น ต่อมาจิ๊บรับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการพลิกบทบาทเป็นนางร้ายและเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพและมีความสามารถด้านการแสดงอีกคับคั่ง

สำหรับผลงานโดดเด่นของสาวจิ๊บนั้นมีมากมายหลายเรื่อง อาทิ กว่าจะรู้เดียงสา, กามเทพลวง, ลูกหลง, เบญจา คีตา ความรัก, รักล้นซอย, ยอดชายนายโข่ง, ทิวลิปทอง เป็นต้น

ผลงานเพลงประกอบละคร เพลง ดนตรีในหัวใจ เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม เพลง เพื่อวันที่ดีกว่า เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม

ในปัจจุบันนี้นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว ยังทำงานมีธุรกิจส่วนตัว รวมไปถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และนอกจากนั้นเธอยังเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารไทยที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย

ชมสด "แอนนา เสือ" ประชันโฉมรอบพรีลิมฯ ชุดประจำชาติ Miss Universe 2022

ถ่ายทอดสด Miss Universe 2022 ส่งใจเชียร์ “แอนนา เสือ” ขึ้นประชันโฉมรอบพรีลิมฯ-ชุดประจำชาติ ช่วงเช้าวันนี้ วันที่แฟน ๆ ชาวไทย ต่างรอคอย เริ่มขึ้นแล้ววันนี้ ที่จะได้ส่งเสียงให้กำลังใจ ไทยแลนด์ให้กึกก้องโลก สำหรับการประกวด เวทีนางงามจักรวาล มิสยูนิเวิร์ส 2565 (Miss Universe 2022) ครั้งที่ 71 ที่จัดขึ้น ณ นิวออร์ลีนส์ มอเรียล คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ณ นครนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา โดยมีปีนี้ไทยส่ง “แอนนา เสืองามเอี่ยม” ไปร่วมชิงมง

โดยวันนี้ จะเป็นการประกวด ในรอบคัดเลือก หรือ รอบพรีลิมฯ และ รอบชุดประจำชาติ ซึ่งจะมีกำหนดการดังนี้

-รอบคัดเลือก หรือ รอบพรีลิมฯ (PRELIMINARY) วันที่ 12 มกราคม 2566 เวลา 08.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

-รอบชุดประจำชาติ (NATIONAL COSTUME SHOW) วันที่ 12 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

-รอบสุดท้าย Final Competition วันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

Miss Universe ประกวด

ทั้งนี้ สามารถรับชม ถ่ายทอดสด การประกวดMiss Universe 2022

ได้ที่ทาง ช่องทางของ JKN แล้วก็ ยูทูปชาแนลMiss Universe รวมทั้ง เพจเฟซบุ๊กMiss Universe

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 66 กองประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ได้เปิดเผยโฉมชุด ประจำชาติที่ น.ส.แอนนา เสืองามเอี่ยม มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2022 จะสวมใส่บนเวที การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2022 โดยมีชื่อชุดว่า“สงกรานต์เทวี” สัญลักษณ์ของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากนางสงกรานต์ประจำปี 2566 ชื่อว่า “นางกิมิทาเทวี” หนึ่งในเทพธิดา (goddess) อีกทั้งเจ็ดของท้าว กบิลพรหม

Miss Universe ชุด

ลวดลายของชุดได้แรงบันดาลใจ มากจากหัตถศิลป์ หัตถกรรม ผ้าทอโบราณ “ผ้าทอลายน้ำไหล”

ประดับตกแต่ง ด้วยงาน ปักลูกปัด คริสตัล เลื่อม แล้วก็ขวดน้ำ ที่เหลือใช้จากการบริโภค นำมาประยุกต์ให้มีความทันสมัย ออกแบบโดย พีรณัฐ วิริยะ ดีไซเนอร์จากแบรนด์ Ciqure

สำหรับ “ขันเงิน” ที่ทำโดยช่าง ฝีมือคนไทย สื่อถึงการ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การเล่นน้ำ หรือใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีความประณีต สร้างสรรค์แล้ว ยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับชาวบ้าน

รวมทั้งชุมชน สะท้อนให้เห็นถึงความสุข ความรัก ความอ่อนน้อมถ่อมตน รวมทั้งความงดงาม ที่สืบทอดต่อกันมาอย่างช้านานอีกด้วย

ร่วมเชียร์ “แอนนา เสือ” ให้ถึงฝันกับมงสาม ที่รอคอย พร้อมลุ้นว่าใครจะได้ครองมงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส 2022 ไปด้วยกันในวันที่ 15 มกราคม 2565 ตามเวลาประเทศไทย ตั้งแต่ 7.00 น. ถ่ายทอดสดผ่านช่อง JKN18

Miss Universe ยิ้ม

ตั้งนาฬิกาปลุกเชียร์ “แอนนา เสือ” ขึ้นประชันโฉม “รอบพรีลิมฯ – ชุดประจำชาติ”Miss Universe 2022 เช้า 12 ม.ค. นี้

“แอนนา เสืองามเอี่ยม” จัดแจงขึ้นเวที “มิสยูนิเวิร์ส” 2 รอบสำคัญ “พรีลิมฯ – ชุดประจำชาติ” แฟนนางงามพร้อมเชียร์

วันพรุ่งแล้ว! (12 ม.ค.66) ที่แฟนนางงามไทย จะได้รวมพลังส่งกำลังใจ ตะโกนไทยแลนด์ ให้ก้องโลก เพราะว่า “แอนนา เสืองามเอี่ยม” จะขึ้นประชัน โฉมบนเวทีการ ประกวดนางงามจักรวาล “มิสยูนิเวิร์ส2022” (Miss Universe2022) ใน รอบคัดเลือก หรือ รอบพรีลิมฯ รวมทั้ง รอบชุดประจำชาติ

Miss Universe รำ

ต่างชาติตะลึง แอนนา เสือ กับหลากลุคเข้ากองประกวด Miss Universe 2022

เตรียมนับ วันถอยหลัง กันให้ดี สำหรับการประกวดMiss Universe 2022 ซึ่งตัวแทนประเทศไทย แอน แอนนา เสืองามเอี่ยมMiss Universe Thailand 2022 ก็พร้อมเต็ม ที่กับภารกิจ ขย้ำมงสาม แบกสายสะพายไทยแลนด์ไปเฉิดฉายที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แอนนา เสือ ก็มีแฟชั่นสวย ๆ มาให้แฟนนางงามได้ว้าว กันตลอดทุกวัน ทุกกิจกรรม ทั้งชุดและเครื่องประดับที่ฟิตติ้งมาอย่างดี ยิ่งบวกกับฝีมือการเมคอัพ แบบหน้าผม ขย่มเองของเธอ ต้องปรบมือเลยว่าสวยสะใจสุด ๆ